รีวิวเจาะลึก Class ของการเรียน IEP Level 3- University Track, University of Washington จากพี่โบ
วันนี้ทอร์ช เอ็ดดูเคชั่น ตัวแทนอย่างเป็นทางการของ University of Washington ได้รับโอกาสดีจากพี่โบ ในการรีวิวคลาสเรียน ตลอดช่วงเวลาหนึ่งเทอมเต็มของการไปพัฒนาภาษาเชิงลึกอย่างจริงจัง โดยที่การพัฒนาภาษาไม่ง่ายเลยเนื่องจากมีการสอบ การเข้มงวดการเรียนในแต่ละคลาส ซึ่งทอร์ช เอ็ดดูเคชั่น ได้ขอให้พี่โบช่วยเล่า 3 คลาสที่ชอบที่สุดแล้วเรารู้สึกว่าเราไม่สามารถเรียนได้ในไทยได้ เริ่มกันเลยนะครับ
Grammar Class Lv2
คลาสนี้เป็นคลาสที่หวั่นใจที่สุดค่ะ เพราะเคยเรียนแบบตั้งใจมาก่อน พอโตขึ้นก็ชอบเรียนจาก เพลง ซีรีย์ หรือภาพยนตร์มากกว่า ซึ่งบางครั้งก็ไม่ถูกตามหลักแกรมม่า ทำให้คิดว่าเป็นไกลตัวเกินไปหน่อย แต่พอเริ่มเรียนก็สนุกกับมันอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ ต้องยกความดีความชอบให้กับอาจารย์ (ชื่อทอมแต่หน้าญี่ปุ่น เป็นอเมริกันจ๋ามากๆ) อาจารย์สอนตั้งแต่การ Make Sentence แบบง่ายๆ ให้เหมาะกับเลเวล 2 สอนพื้นฐานสำคัญอย่างการใช้ Verb ซึ่งบางครั้งเรามักลืม Verb ในการพูดปกติ แต่กับแกรมม่าไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ เมื่อเข้าใจ verb ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น ตั้งแต่การผัน verb (กิริยา 3 ช่องที่ท่องๆ กันตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เข้าใจว่าใช้แบบไหน) ไปตาม อดีต ปัจจุบัน และปัจจุบัน รวมถึงอนาคต สำหรับเลเวล 2 จะเรียนแค่ 4 Tenses ได้แก่ Simple present, Simple past, progressive และ Future ทอมจะพูดเสมอว่าเลเวล 2 เขาต้องการแค่ให้นักเรียนเข้าใจ verb มากที่สุด ไม่ต้องเขียนยาวๆ เป็นหน้าๆ แต่ต้องมั่นใจว่าเราเข้าใจว่าประโยคที่เราเขียน อ่าน รวมทั้ง ฟังด้วยนั้น คำไหนคือ Subject ,verb, noun, adjective หรือแม้แต่ preposition (พวกนี้ใช้บ่อยสุด) ซึ่งมีกฏยิบย่อยพอตัว เมื่อค่อยๆ เรียนจะเข้าใจมากขึ้นและจำกฏเหล่านี้ได้ขึ้นใจค่ะ ในคลาสทุกคนผิดพลาดได้ ถามอาจารย์ได้หากสงสัยหรือแม้แต่ไม่เห็นด้วย ก็สามารถมาถกกันได้ ยิ่งผิดพลาดยิ่งจำแม่นค่ะ รอดคลาสนี้มาได้เพราะผิดบ่อยค่ะ ฮ่าๆๆ
Listening & Speaking
สำหรับคลาสนี้ได้เลเวล 3 มาแบบงงๆ ไม่คิดว่าจะได้คะแนนดีจนเริ่มต้นที่เลเวลนี้ ยากค่ะ สั้นๆ เพราะคลาสนี้เน้นพูดกับเพื่อนในคลาส ไม่มีหนังสือเรียน แบ่งกลุ่มคุยกันทุกคลาส สลับกันไปเรื่อยๆ ได้คุยครบทุกชาติ ฮ่าๆๆ สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับคนไทยคือการออกเสียง รวมถึงเอเชียด้วยกันด้วยค่ะ หลายครั้งที่พูดไปแล้วเพื่อน งง What did you say ???I didn’t catch !!!!! เพราะสำเนียงของเรามันไม่มีการลงท้ายเสียงเหมือนฝรั่งหรืออาหรับค่ะ บางครั้งมาฝึกหน้ากระจกเอาค่ะ คำง่ายอย่าง walk talk pay play paid bought brought นี่ละ มันยากมาก (กไก่ยี่สิบตัว) แต่อย่างไรก็ต้องพูดค่ะ จะมานั่งนิ่งๆ ไม่ได้ ส่วนการเรียนอาจารย์จะให้หัวข้อในการคุยมาค่ะ บางครั้งก็ดูวิดิโอสลับกันไป (ไม่เบื่อดี) แต่ที่สนุกที่สุดน่าจะเป็นหัวข้อเรื่องความแตกต่างระหว่าง ผู้ชายและผู้หญิงค่ะ ทุกคนถกเถียงกันมันมาก ฮ่าๆๆๆ อาจเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว ต่างจากเรื่องการเมืองเอาเบื่อไปทั้งอาทิตย์ แต่ข้อดีคือรู้จักศัพท์ใหม่ๆ เยอะขึ้นค่ะ ส่วนการฟังอาจารย์ไม่มีพูดช้าๆ ให้เรานะคะ พูดเหมือนอเมริกันทุกอย่าง เราอาจตอบช้า แต่อาจารย์จะสวนมาอย่างรวดเร็วเช่นเดิม หักดิบมากๆ แต่ได้ผลค่ะ เพราะชีวิตข้างนอกไปซื้อของ เข้าร้านอาหาร ขึ้นรถเมล์ ไม่มีใครพูดช้าๆ ใส่เราค่ะ
Reading
ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้วเลยไม่มีปัญหากับคลาสนี้เท่าไรค่ะ ฮ่าๆๆ เลเวล 2 จะเน้นบทความที่ไม่ยากมาก พร้อมๆ ไปกับการเรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ ค่ะ สิ่งสำคัญคือการจับใจความ หา Main ideas ในแต่ละบทความ ต้องมาวิเคราะห์หาทุกย่อหน้า จนกระทั่ง Main idea ของบทความนั้นๆ ค่ะ ซึ่งในการสอบทุกตัวเลือกในช้อยส์ A-D ทุกคำตอบคือสามารถเป็นคำตอบของเราได้หมด แต่เราต้องหาคำตอบที่ถูกที่สุด (เน้นที่สุดอีกที) เกือบลืมทุกคลาสของที่นี่ตอน final อาจารย์จะมีการ pre-test ให้เราได้เตรียมตัวนะคะ ไม่ใช่อยู่ดีๆ มาสอบ ซึ่งเราชอบมากค่ะ ทำให้เรารู้จุดอ่อนของตัวเอง ว่าอันไหนยังไม่แน่นพอ ต้องหาอ่านและศึกษาเพิ่มเติมหรือถามอาจารย์กันอีกที สรุปว่าผ่านทั้ง 3 คลาสค่ะ เย้ๆๆ เจอกัน Fall Quarter ค่ะ ^^
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.