NorthEastern University : Be The Difference
พี่ปอง @MBA , Northeastern University, Boston
Episode 1: Getting Ready for Exams
ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ ชื่อ #ปองค่ะ เป็นนักเรียนทุน #รัฐบาลไทย ได้ทุนไปศึกษาต่อปริญญาโทที
Requirement ในการสมัครเรียน MBA ที่อเมริกามี
– Resume
– 2-3 Recommendation Letters
– GMAT scores and English Language Proficiency scores (TOEFL or IELTS อันนี้เช็คดีดีว่ายูที่เราอ
สิ่งที่ยากและควรทำก่อนคือก
ปองเลือกสอบ IELTS ตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2015 เพราะดูแล้วยูที่อยากไปส่วน
ช่วงเดือนกันยายน ปี 2015 นั้นคือก่อนเริ่มทำงาน แล้วว่างหลังเรียนจบ เลยไปเรียนคอร์ส Writing 10 วัน ในระหว่างนั้นก็พัฒนาทักษะอ
สำหรับปองรู้สึกว่า มันช่วยได้มากเลยนะในทักษะ Listening กับ Speaking อะ
ส่วนการที่เราเรียน Writing เนี่ยนอกจากได้ฝึกเขียนแล้ว
– ด้านการเตรียมตัวสอบ GMAT –
คะแนน GMAT เต็ม 800 โดยมาจาก 2 ส่วนคือ ส่วน Quantitative กับส่วน Verbal และในข้อสอบยังมีส่วน Analytical Writing กับ Integrated Reasoning ปองเริ่มเตรียมตัวช่วงกลางป
Mock Exam คือการทดลองสอบเสมือนจริง จับเวลาจริง โจทย์จริง การคำนวณคะแนนสอบเหมือนการส
การสอบ GMAT เนี่ยสอบเสร็จแล้วรู้คะแนนเ
ศูนย์สอบ GMAT อยู่ตรงอโศก ขึ้นไปบนตึก และมันเป็นห้องออฟฟิศเล็กๆเ
สอบ part แรก คือ ส่วน Analytical Writing กับ Integrated Reasoning ก็ทำไป ไม่ต้องเครียดมาก ทำเท่าที่ได้ แต่ปองเองไม่ได้ลงแรงกะส่วน
การกลับมาอ่านเพิ่มในส่วนขอ
Episode 2: Applying to Universities
ช่วงเดือน มีนาคม 2017 เป็นช่วงที่เราเครียดมาก เพราะเราเพิ่งยื่น George Washington University, Bentley University และ Case Western Reserves University ไป ตอนนั้นก็แอบกลัวนะ เพราะประสบการณ์ทำงานเราแค่
#คุณพ่อ เราก็ช่วยอ่านๆเรื่องเรียนต
วันนั้นคุยกะพี่ภู #เพียงแค่2ชั่วโมงได้ พี่ภูก็แนะนำว่าอันนี้ควรยื
– #Johns Hopkins (Carey)
– #Babson College
– #NEU Northeastern University (D’Amore-McKim) และ
– #BU Boston University ไปเพิ่ม
ซึ่งทีนี้มีประเด็นว่า Johns Hopkins (Carey) ต้องการให้เราเอา Transcript เราทำ#CredentialEvaluation เราก็ทำ ซึ่งมันคือการส่ง Transcript เราไปให้บริษัทที่อเมริกาปร
การเตรียม Essay นะ #หาจุดขายตัวเอง #คิดว่าตัวเองเด่นไร ใส่ไปให้เต็ม เว่อๆหน่อย แต่อยู่บนพื้นฐานความจริง #ใส่ความดราม่านิดๆ และเอาแค่ประเด็นหลักนะ #อย่าน้ำเยอะ แต่ให้คนอ่านอ่านแล้วแบบรู้
ส่วน Recommendation Letters หาคนที่#มีชื่อเสียง หรือ #เครดิตดี ได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ หัวหน้าและอาจารย์ก็ได้ เลือกคนที่เคยจบเมืองนอกนะ ถ้าถามเรา เพื่อ MBA ควรเอาคนที่รู้จักเราดี หัวหน้าที่สนิทกัน อาจไม่ต้องตำแหน่งสูงสุด แต่ถ้าเคยทำงานกับเค้าบ่อยๆ
#Interview period
ช่วงปลายมีนาคมและต้นเดือนเ
คำถามหลักๆ คือ
– ลองแนะนำตัวเองสิ
– ทำงานอะไรอยู่
– มีอะไรท้าทายในงานบ้าง
– เล่าประสบการณ์ที่เจอจุดเปล
– เคยล้มเหลวไหมและเรียนรู้ไร
– ปกติชอบทำอะไร
– อ่านหนังสือไรบ้างทำไมถึงอ่
– มี role model ไหม เป็นใคร
– ทำไมถึงชอบ คิดว่าคุณสมบัติของการเป็นน
– หลังจบไปจะทำอะไร short-term and long-term goal คืออะไร
– มีเรื่องไรอยากให้เค้ารู้เป
– และมีคำถามไรจะถามเค้าไหม 2 ข้อสุดท้ายเราว่าสำคัญ เตรียมไว้เลย
#เรื่องพิเศษเกี่ยวกับเราคื
ส่วนข้อสุดท้ายที่ว่า คำถามไรจะถามเค้าไหม ลองถามเกี่ยวกับหลักสูตรเค้
พอกลางๆเดือนเมษายนมาถึง แต่ละยูก็ทยอยประกาศผลมา จนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ผลคือ#เราติดทุกยูที่สมัครไ
Episode 3: Make a Decision, Which University I Want to Attend
ต่อจาก Episode 2 นะคะ ผลคือ เราติดทุกยูที่สมัครไปเพิ่ม
ช่วงนี้เป็นช่วงของการเลือกยูที่เรามีในม
ตอนนั้นเราลังเลระหว่าง George Washington University, Johns Hopkins (Carey), Babson College และ Northeastern University (D’Amore-McKim) แล้วเราก็นั่งคิดว่าเราอยาก
ต่อมา Babson College ก็น่าสนใจอีก ดูคนจบมาเท่าที่รู้เก่งๆเยอ
ตอนนี้เหลือ George Washington University กับ Northeastern University (D’Amore-McKim) แล้ว เราเป็นคนที่สนใจสภาพแวดล้อ
Episode 4: On Duty, Overview Class and Culture
เจออะไรที่#แตกต่างจากไทยเยอะเลยค่ะ เช่นการเรียน คือต้องตอบคำถามในห้อง ไม่งั้นไม่ได้คะแนนค่ะ คะแนนparticipation 20-30%ค่ะ งานเยอะมาก ทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่ม ซึ่งมีผลต่อเกรดสูงมาก คะแนนสอบคิดเป็น 20-40%ของเกรดเองค่ะ ต่างกับประเทศไทยมากที่เน้นคะแนนสอบตั้ง80%
ถามว่าชอบแบบไหน ปองชอบแบบที่นี่ค่ะ คิดว่ามันได้อะไรมากกว่าเยอะ จากการตอบคำถามในห้อง ตอนแรกก็แค่ตอบ หลัง ๆ สนิทกับเพื่อนในห้องมากขึ้นจะมีการถกกันบ้าง เห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็แสดงความคิดเห็น ซึ่งการถกกันมันทำได้เห็น#ความคิดที่ต่างมากขึ้น เปิดโลกอะคะ 5555 ดีนะ เพื่อน ๆ ก้ดีค่ะ แม้แต่พวกอเมริกันเองก็เฟรนลี่ พยายามมาคุยด้วย มีไรก้ช่วยอธิบาย บางคนบอกว่าไม่เข้าใจอาจารย์สอนตรงไหน whatsapp มาหาเค้าได้เลย เดี๋ยวอธิบายให้ และที่ชัดมาก คือเอเชี่ยนค่อนข้างฉลาดและเรียนเก่ง ทั้งจีนทั้งไทยทั้งอินเดีย แต่#อเมริกันจะพูดเก่ง #คิดเป็น นี่คือสิ่งที่เราต้องแลกเปลี่ยนกันค่ะ อย่างปองก็อยากเรียนรู้ที่จะแสดงความคิดเห็นมากขึ้น อยากถกมากขึ้น ส่วนการเรียนที่เป็นวิชาการหรืออ่านหนังสือไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะพวกเราหนักทางนี้มาตั้งแต่เด็กต่างกับฝรั่งอะคะ 55555
โดยรวม เหนื่อยมาก แต่ก้มีความสุขมากค่ะ 🙂 ข้อคิดคือ สำหรับคนที่อยากเรียนต่อ เชียร์ให้มาอเมริกามาก ๆ ค่ะ ด้วยความที่เค้าเปนประเทศเปิด เราแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ อยากทำไรทำ ไม่มีใครมาตัดสินเราค่ะ และถ้ามีเวลาเตรียมตัวก่อนมา คือ#ฝึกอ่านภาษาอังกฤษฝึกพูดมาเยอะ ๆ เลยค่ะ เพราะมาเรียน อ่านเยอะมาก แบบมาก ๆ และก้ต้องพูดเยอะมาก
ใครอยากหัดดื่มมาก็ได้ค่ะ เพราะพวกฝรั่งคือชอบดื่มมาก 4โมงเลิกเรียนก้ชวนกันไปบาร์ ดื่มเบียร์ 1-2 แก้ว คุย ๆ ๆ พอ 1 ทุ่มก็แยกย้ายกันกลับละคะ ไม่กลับกันดึก แต่ต้องดื่มและสังสรรค์
ไม่รู้นี่เรียกว่าข้อคิดไหมนะคะ 55555 แต่นี่คือสิ่งที่ปองได้ใน 1 เดือน ซึ่งปองว่ามันเยอะมาก และดีต่อตัวปองมากเลยค่ะ เปิดโลก
และต้องทำตัว adapt อะมาเรียนต่างประเทศ เพื่อนชวนไปไหนไปกัน จะได้อะไรเยอะ #ต้องเปิดใจคุยกับเพื่อนใหม่ ๆ ไม่ใช่ติดอยู่แต่กับเพื่อนไทยค่ะ เพราะ#เพื่อนต่างชาติทำให้เราได้ภาษาอังกฤษเร็วขึ้น และสนุกดีค่ะ
อย่างปองไม่ดื่ม ก็ลำบากหน่อย แต่ก็ไปนะคะ ไปคุยกะเพื่อน ๆ และดื่มโค้กเอา
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.