KK @ Baruch College from CUNY- City University of New York Baruch College

Q : ช่วยเล่า background ตัวเองให้ ฟังหน่อยได้มั้ยครับ (จบที่ไหน ทำงานที่ใด) การเปลี่ยนสายอาชีพเพราะอะไร
Kk : สวัสดีค่าาา เคเคนะคะ เรียนจบจาก abac, marketing ค่ะ ตอนนี้ทำงานที่บ้านที่ช่วงก่อนไปเรียนต่อ เลือกไปเรียน MS อองเตอ ที่ Baruch college@NYC ที่เลือกไปเรียนสาขานี้เพราะว่าเคยเรียน BBA มาแล้วตอนป.ตรี การเรียน MS เลยตอบโจทย์มากกว่าค่ะ และสาขานี้มันเอื้อต่อการต่อยอดธุรกิจที่บ้าน หรือ จะเปิดธุรกิจตัวเองก็ได้ค่ะ

Q: แล้วทำไมถึงตัดสินใจเรียน Baruch @ NYC ในมุมมองของ KK เลือกเพราะอะไร (ทั้งๆที่มีหลายสถาบันไม่ว่าจะเป็นของมหาวิทยาลัย อีกทั้งหลายประเทศที่เราก็เลือกไปเรียนได้ )

KK: ส่วนตัวเราชอบอเมริกามากอยู่แล้วค่ะ ใฝ่ฝันว่าอยากไปเป็นนักเรียนที่นั่น 555555 เคยไป work & travel แล้วก็ไปเที่ยวที่นิวยอร์ค จึงมีความคุ้นเคยในสถานที่ ไม่ต้องปรับตัวมาก แล้วที่บารุคนี่เป็นมหาลัยรัฐที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีด้วยค่ะ และด้วยความที่เป็นมหาลัยรัฐค่าเรียนจึงไม่สูงมาก เดินทางสะดวกด้วยน้า Entrepreneurship program ของเค้าก็ติดอันดับท็อปๆด้วยแหละ 

Q : มองการไปเรียน ปโท และภาษาใหม่อีกครั้ง ทำไมทั้งๆที่รอปโทตอบรับ แล้ว จะส่งเสริม การเข้าโทได้จริงหรอ ในอนาคตแค่ไหนเชื่อมั่นประสบการณ์ต่างประเทศอย่างอเมริกาแค่ไหน

KK: ตอนนี้กำลังป.โทตอบรับอยู่ค่ะ ระหว่างรอเราก็ใจร้อนไง คิดไปเลยว่าต้องติดแน่นอน(งานเข้าข้างตัวเองค่ะ555) ก็เลยไปลงเรียนคอร์สภาษาเตรียมตัวก่อนเปิดเทอมจริงๆ มันทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น แล้วการที่เราลงคอร์สภาษาก็อาจจะทำให้ป.โทตอบรับง่ายขึ้นด้วยค่ะ เพราะเค้าอาจจะมองว่าเรามีความตั้งใจในการพัฒนาภาษาและความตั้งใจในการเข้ายูเค้าจริงๆ แล้วการยื่นวีซ่าก็จะง่ายขึ้นด้วยค่ะ เพราะเรามีแผนที่ชัดเจนและมีเหตุผลในการเรียนคือมัน make sense เราเคยไปอเมริกามาแล้ว2ครั้งมันเปิดโลกอีกโลกนึงเลยนะคะ ติดใจมาก5555 ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติมาก มีความอิสระเสรีแต่ยังนับถือสิทธ์ซึ่งกันและกันในที ทำให้เรามีความเข้มแข็ง และมั่นใจในตัวเองขึ้นมากค่ะ 

Q : อยากให้เล่าถึงประสบการณ์ในขอวีซ่า เตรียมตัวขนาดไหน เครียดมากมั้ย โดยเฉพาะเรื่องที่กังวล คิดมากตรงประเด็นไหน และตอบยังไงให้สถานทูตจะเชื่อว่าเราไปเรียนจริงๆ เอาละเอียดที่สุดนะ เพราะ KK ตื่นเต้น มีคิดประมาท กังวล ซ้อมมากมั้ย

KK: 55555 ตอนแรกคือชิวมากค่ะ เพราะเคยได้ B1, J1 มาแล้ว คิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พอได้มาปรึกษาพี่ภูริต เราก็รู้เลยว่าเราประมาทเกินไปจริงๆ เอกสารไม่มี ขาดนั่นนี่เยอะไปหมด 555555 เกือบพัง แล้วตอนนี้อเมริกาเข้มงวดมากขึ้นด้วย การที่เคยได้วีซ่ามาสองแบบแล้วก็โดนมองว่าเป็นความเสี่ยงที่จะเข้าไปทำงานผิดกฎหมายได้ พี่ภูริตจึงแนะนำให้เตรียมเอกสารเพิ่มเพื่อพิสูจน์ว่าเรามีหลักฐานจะไปเรียนจริงๆ คือเค้าถามอะไรมาเราทางไหน เรามีเอกสารพร้อมตอบกลับได้ทุกทางไรงี้5555 (ใครอยากรู้ว่าเอกสารอะไร มาปรึกษาที่ภูได้ค่ะ หลังไมค์) แล้วค่าสมัครคือ 5-6 พัน ตื่นเช้าด้วย เสียเวลาด้วย เตรียมตัวเยอะๆไว้ก่อน ดีที่สุดค่ะ จะได้ไม่เสียตัง เสียเวลาฟรีเนอะ ตอนซ้อมวีซ่าก็ได้พี่ภูกับเพื่อนๆที่จะไปด้วยกัน ซ้อมจนมั่นใจเลยค่ะ เพราะตอนสัมจริง เค้าถามมาตอบเร็วจริงค่ะ คือไม่มีเวลาคิดเลย55555

Q:หากมีหน่วยงานที่ให้คำแนะแนวเป็นที่ปรึกษาด้านการเรียนต่อ และโดยเฉพาะแบบ Torch educaton ที่มีการให้แนวทางการใช้ชีวิตในต่างประเทศ อยากให้มีบริการใดๆเพิ่มมั้ย หรืออยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับ Torch Education บ้างมั้ย

KK : ขอบคุณทาง torch มากค่ะ ใส่ใจรายละเอียดทุกคนจริงๆ เอกสารก็มาไวมากๆ ทั้งๆที่เราใจร้อน 5555 แจ้งรายละเอียดทุกขั้นตอนเลย คือเด็กแต่ละคนก็มีปัญหา ความกังวล ไม่เหมือนกัน แล้วคือทางที่ภูมีประสบการณ์มามากมาย รับมือได้กะทุกปัญหาจริงๆค่ะ 55555 คือประทับใจ เอกสารเป๊ะมาก ไม่หลุดเลย ติดต่อไปทีไรไม่มีต้องรอค่ะ รับทันที แม้ว่าพี่ภูจะอยู่เมกาก็ตื่นตี4มารับสายเรา5555 

Q: ช่วยฝากหรือแนะนำอะไรให้เพื่อนๆน้องๆก่อนไปเรียน

KK : ไม่ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆจะไปเรียนภาษา ป.ตรี ป.โท หรือเซอร์นะคะ อยากให้หาข้อมูลเยอะๆเกี่ยวกับสถาบันและหลักสูตร ชีวิตเราต้องมีตัวเลือกไว้เยอะๆ เลือกที่เหมาะกับเรา และ เราเข้าได้ไว้ด้วยค่ะ ชีวิตต้องมีหลายๆแผน คือถ้าแผน1ไม่ได้ แผน2 เป็นยังไง มีแผน3ไหม หรือมีทางไหนที่จะเพิ่มโอกาสให้แผน1ได้ อะไรแบบนี้ แล้วก็อย่าท้อนะคะ ค่อยๆทำตามขั้นตอน 1234 ใจเย็นๆ แล้วผลจะออกมาดีเองค่ะ ถึงแม้ทุกคนจะมีสถาบันไหนไว้ในใจแล้ว ลองมาปรึกษาพี่ภูเพิ่มแล้วจะได้อะไรดีๆกลับไปเพิ่มอย่างแน่นอนค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ