UTAH ยูทาห์
รัฐยูทาห์ เป็นรัฐทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาร็อกกี มีเมืองหลวงคือซอลต์เลกซิตี เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา เป็นลำดับที่ 45 ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2439 ชื่อของรัฐยูทาห์ มาจากชื่อของเผ่าอินเดียนแดง เผ่ายูท ซึ่งหมายถึง “คนบนเทือกเขา” ยูทาห์เป็นรัฐต้นกำเนิดของศาสนาคริสต์ นิกายมอร์มอน
การท่องเที่ยวในยูทาห์ : ที่เที่ยว ยูทาห์ : อุทยานแห่งชาติไซออน, อุทยานแห่งชาติไบรซ์แคนยอน, อุทยานแห่งชาติอาร์เชส, อุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์, ทะเลสาบเกรตซอลต์, อนุสาวรีย์สถานแห่งชาติสะพานสายรุ้ง, หุบเขาหินก็อบลิน

เมื่อสมาชิกของศาสนามอร์มอนเผชิญกับความขัดแย้งในสหรัฐอเมริกา Brigham Young ได้นำพวกเขามุ่งไปทางตะวันตกและมาตั้งบ้านเรือนกันที่ซอลต์เลกซิตี ซึ่งตอนนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นทะเลทรายอยู่ ปัจจุบันเขตมหานครอันกว้างใหญ่มีวิหาร LDS และอาคารของรัฐบาลที่มีความน่าชื่นชมทางสถาปัตยกรรมอยู่มากมาย เพลิดเพลินไปกับศิลปะการแสดงของวงซิมโฟนีและคณะประสานเสียงของมอร์มอน
มีพิพิธภัณฑ์อยู่กว่า 25 แห่ง ผู้ศึกษาเกี่ยวกับการสืบวงศ์ตระกูลจำนวนมากจะไปที่ห้องสมุดประวัติศาสตร์วงศ์ตระกูล เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบรรพบุรษของพวกเขาจากบันทึกนับล้านเพื่อมาใส่ไว้ในแผนภูมิเครือญาติ
ซอลต์เลกซิตีเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2002 เยี่ยมชมสวนโอลิมปิกยูทาห์และพิพิธภัณฑ์เพื่อย้อนความทรงจำถึงเหตุการณ์เด่นๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ไปยัง Big Cottonwood Canyon ที่อยู่นอกเมืองเพื่อปีนเขาในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แกะสลักผลฟักทองกับคนท้องถิ่นในฤดูใบไม้ร่วง และเล่นสกีในฤดูหนาว
เมืองเล็กๆ อย่างพาร์ค ซิตี้ เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมืองไม่ว่าจะในฤดูหนาวหรือฤดูร้อน จากถนนหลักแห่งประวัติศาสตร์ ขึ้น Town Lift ไปยังยอดเขาเพื่อเล่นสกี ปั่นจักรยานเสือภูเขา หรือเพลิดเพลินไปกับการชมวิว เทศกาลภาพยนตร์ Sundance จัดขึ้นในเดือนมกราคม มีการจัดฉายภาพยนตร์อิสระที่ดีที่สุดของประเทศส่วนหนึ่งในรอบปฐมทัศน์
วางแผนไปเที่ยวที่ Ogden หากมีเด็กๆ ร่วมเดินทางมาด้วย ให้แรงบันดาลใจกับนักบรรพชีวินวิทยารุ่นใหม่ที่สวนไดโนเสาร์ George S. Eccles ที่จะได้พบเจ้าสัตว์ขนาดมหึมาสมัยก่อนประวัติศาสตร์แบบเสมือนจริงและการจัดแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟด้วย ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทรีเฮาส์ พิพิธภัณฑ์อวกาศฮิลล์ และพิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งยูทาห์เพื่อชมนิทรรศการที่น่าสนใจและการสำรวจค้นหาแบบลองลงมือทำได้เองอันหลากหลาย
การเดินทางใน UTAH
เน้นการเดินทางท่องเที่ยวด้วย Road trip คือการขับรถเที่ยวชมธรรมชาติ และเที่ยวรอบเมืองไปยังจุดท่องเทียวสำคัญต่างๆ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
Great Salt Lake
ทะเลสาบเกรตซอลต์ (Great Salt Lake) ตั้งอยู่ในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีขนาดความยาว 120 กิโลเมตร กว้าง 50 กิโลเมตร ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับน้ำจากแม่น้ำสามสาย (คือแม่น้ำแบร์ แม่น้ำจอร์แดน และแม่น้ำเวเบอร์) และไม่มีทางออกสู่ทะเล เมื่อปริมาณไอน้ำระเหยมากกว่าน้ำที่ไหลเข้าทำให้แร่ธาตุที่สะสมอยู่ในทะเลสาบมีความเข้มข้นสูง ทำให้น้ำในทะเลสาบเค็มกว่าปกติร้อยละ 20-27 บางช่วงเวลาทะเลสาบมีเนื้อที่เพียง 1,500 ตารางกิโลเมตร แต่ช่วงที่น้ำมากเนื้อที่ทะเลสาบอาจมีเนื้อที่ถึง 5,311 ตารางกิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติ Bryce Canyon เป็นอุทยานแห่งชาติอเมริกันที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูทาห์ คุณสมบัติที่สำคัญของสวนสาธารณะคือ Bryce Canyon ซึ่งแม้จะมีชื่อไม่ใช่หุบเขา แต่เป็นคอลเล็กชั่นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำตามธรรมชาติที่อยู่ทางด้านตะวันออกของที่ราบ Paunsaugunt ไบรซ์มีความโดดเด่นเนื่องจากโครงสร้างทางธรณีวิทยาที่เรียกว่า hoodoos ซึ่งเกิดจากสภาพอากาศที่เย็นจัดและการพังทลายของแม่น้ำและหินตะกอนในทะเลสาบ หินสีแดงสีส้มและสีขาวให้ทัศนียภาพที่งดงามสำหรับผู้มาเยือนอุทยาน อุทยานแห่งชาติ Bryce Canyon มีขนาดเล็กกว่ามากและตั้งอยู่ที่ระดับความสูงที่สูงกว่าอุทยานแห่งชาติ Zion ในบริเวณใกล้เคียง ขอบที่ไบรซ์แตกต่างกันไปจาก 8,000 ถึง 9,000 ฟุต (2,400 ถึง 2,700 เมตร)
ไบรซ์แคนยอนตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ของมอร์มอนผู้บุกเบิกในยุค 1850 และตั้งชื่อตามเอ็บเบนเนเซอร์ไบรซ์ที่ homesteaded ในพื้นที่ 2417 บริเวณโดยรอบ Bryce Canyon ถูกกำหนดให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติโดยประธานาธิบดี Warren G. Harding ในปี 1923 และได้รับการออกแบบใหม่ให้เป็นอุทยานแห่งชาติโดยสภาคองเกรสในปี 2471 สวนสาธารณะครอบคลุมพื้นที่ 35,835 เอเคอร์ (55.992 ตารางไมล์; 14,502 เฮกเตอร์; 145.02 km2) และได้รับผู้เยี่ยมชมน้อยกว่าอุทยานแห่งชาติ Zion (เกือบ 4.3 ล้านคนในปี 2559) หรืออุทยานแห่งชาติ Grand Canyon (เกือบ 6 ล้านคนในปี 2559) ส่วนใหญ่เนื่องมาจากสถานที่ห่างไกลของไบรซ์มากขึ้น ในปี 2561 ไบรซ์แคนยอนได้รับผู้เยี่ยมชม 2,679,478 คนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 107,794 คน
Delicate Arch
Delicate Arch มีความสูง 52 ฟุต (16 ม.) มันเป็นซุ้มโค้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Arches ใกล้กับ Moab ใน Grand County, Utah, สหรัฐอเมริกา Delicate Arch เป็นสถานที่สำคัญที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุดในอุทยานแห่งชาติ Arches และเป็นภาพบนแผ่นป้ายทะเบียนยูทาห์และตราไปรษณียากรที่ระลึกถึงการครบรอบหนึ่งร้อยปีของยูทาห์ในการเข้าสู่สหภาพในปี 1996 โอลิมปิกคบเพลิงโอลิมปิกสำหรับโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2002
Alpine Coaster
รถไฟเหาะอัลไพน์ (An Alpine coaster) หรือรถไฟเหาะบนภูเขา (Mountain coaster) เป็นรถไฟเหาะประเภทหนึ่งที่ใช้แคร่เลื่อนแบบล้อเลื่อนหรือเกวียนเพื่อวิ่งลงบนรางที่มักจะสร้างขึ้นที่ด้านข้างของเนินเขา มันคล้ายกับอัลไพน์สไลด์ (Alpine slide) ซึ่งใช้เลื่อนเพื่อวิ่งลงบนลู่เว้าเรียบ แต่บนรถไฟเหาะอัลไพน์เลื่อนเลื่อนแทนที่จะวิ่งบนรางท่อและไม่สามารถออกจากแทร็กได้
สไลด์แทร็กทั้งสองประเภทนี้บางครั้งมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Sommerrodelbahn พวกเขามักจะสร้างโดยสกีรีสอร์ทเพื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานฤดูหนาวที่มีอยู่และให้รายได้ฤดูร้อนเพิ่มเติมแม้ว่าการติดตั้งบางอย่างเป็นแบบสแตนด์อโลน
ในปี 2550 อัลไพน์ที่ยาวที่สุดในโลกคือ 17,400 ฟุต (5,300 เมตร) ยาว Tobotronc ที่ Naturlandia ใน Pyrenees แห่งอันดอร์ราได้ รถไฟเหาะอัลไพน์ที่สูงที่สุดในโลกคือ 3,300 ฟุต (1,000 ม.) รถไฟเหาะยาวอัลไพน์แห่งกลาเซียร์ 3000 ใน Gstaad สวิตเซอร์แลนด์เริ่มต้นที่ระดับความสูง 9,747 ฟุต (2,971 ม.)
คุณลักษณะด้านความปลอดภัยความเร็วแทร็กและเค้าโครงต่างกันไปตามผู้ผลิต นักประดิษฐ์และผู้ผลิตชั้นนำที่มีการติดตั้งมากกว่า 130 แห่งทั่วโลกคือ Wiegand Sports GmbH
Bear Lake State Park
Bear Lake เป็นทะเลสาบน้ำจืดธรรมชาติในเขต Utah-Idaho ใน Western United States ประมาณ 109 ตารางไมล์ (280 km2) ขนาดมันถูกแบ่งเท่า ๆ กันระหว่างสองรัฐ ส่วนของยูทาห์ประกอบด้วยทะเลสาบน้ำจืดธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองในยูทาห์หลังจากทะเลสาบยูทาห์ ทะเลสาบแห่งนี้ถูกเรียกว่า “Caribbean of the Rockies” เพราะมีสีฟ้าอมเทาที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเกิดจากการหักเหของแคลเซียมคาร์บอเนต (หินปูน) ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบ คุณสมบัติของน้ำได้นำไปสู่วิวัฒนาการของสัตว์หลายชนิดที่เกิดขึ้นเฉพาะภายในทะเลสาบ ทะเลสาบแบร์มีอายุมากกว่า 250,000 ปี
ชื่อเดิม “Black Bear Lake” โดยโดนัลด์ McKenzie นักสำรวจทางตะวันตกเฉียงเหนือของ บริษัท ที่สำรวจทะเลสาบในปี 2362 ต่อมาย่อชื่อลงเหลือทะเลสาบแบร์ (Bear Lake) ทะเลสาบเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ชื่นชอบกีฬาและหุบเขาโดยรอบได้รับชื่อเสียงว่ามีราสเบอร์รี่ที่คุณภาพสูง
Crystal Geyser
Crystal Geyser ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของกรีนริเวอร์ประมาณ 4.5 ไมล์ (7.2 กม.) จากด้านล่างของกรีนริเวอร์ยูทาห์สหรัฐอเมริกา มันเป็นตัวอย่างที่หายากของน้ำพุร้อนที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำเย็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์; กิจกรรมความร้อนใต้พิภพไม่ได้มีบทบาทในกิจกรรมของน้ำพุร้อน น้ำใต้ดินที่อยู่ใกล้กับน้ำพุร้อนมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ละลายในปริมาณมากรวมถึงการสะสมของก๊าซใต้ดินในบริเวณโดยรอบ ความอิ่มตัวของน้ำแข็งด้วย CO
2 สร้างแรงกดดันเพียงพอที่จะบังคับให้น้ำใต้ดินผ่านน้ำพุร้อนและออกสู่พื้นผิว
น้ำพุร้อนดังสนั่นบางครั้งความสูง 130 ฟุต (40 เมตร) หรือมากกว่า ในช่วงปี 2005 การศึกษาระยะเวลาของการปะทุพบว่าพวกเขาเป็น bimodal ประมาณ 66% ของการปะทุในการศึกษาเกิดขึ้นประมาณ 8 ชั่วโมงหลังจากการปะทุครั้งก่อนและที่เหลือประมาณ 22 ชั่วโมงหลังจากนั้น น้ำพุร้อนโดยเฉลี่ยหนึ่งร้อยนาทีต่อวันกับการปะทุ 7-32 นาทีหรือ 98-113 นาที การกระจายของการระเบิดแบบ bimodal ไม่ใช่รูปแบบที่เข้าใจกันดี แต่พบได้ในกีย์เซอร์อื่น ๆ ทั้งในน้ำเย็นและอื่น ๆ
รูปแบบปัจจุบันของน้ำพุร้อนถูกสร้างขึ้นโดยการเจาะหลุมสำรวจในปี 1935 ในความพยายามที่จะค้นหาน้ำมัน บ่อน้ำเดิมมีความลึก 2,600 ฟุต (790 เมตร) แต่เจ้าของคนก่อน ๆ ของที่ดินเต็มไปบางส่วนซึ่งหมายความว่าตอนนี้บ่อน้ำลึกเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
บริเวณโดยรอบน้ำพุร้อนที่ถูกปกคลุมด้วยชั้นหินหนาสีส้ม ใกล้แม่น้ำที่อยู่ติดกับ travertine
Arches National Park Scenic Drive
อุทยานแห่งชาติสะพานหินโค้ง หรือ อุทยานแห่งชาติอาร์เชส (Arches National Park) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐยูทาห์ เขตอุทยานแห่งชาติหินโค้งมีเนื้อที่ 300 ตารางกิโลเมตร หรือ 187,500 ไร่มีสะพานหินโค้งมากกว่า 200 แห่ง สะพานหินโค้งแลนด์สเคป ยาวกว่า 89 เมตร เป็นสะพานหินโค้งที่ยาวที่สุดในโลก แต่ช่วงสะพานมีช่วงเปราะบางมาก มีช่วงหนาเพียง 1.8 เมตร เชิงสะพานเป็นหินทรายยื่นออกจากหินโผล่ขรุขระเหนือพื้นหุบผาชันด้วยความสูงประมาณ 30 เมตร และ มีสะพานหินโค้งเดลิเคต ซึ่งสะพานแห่งนี้สูงโดดเด่นเหนือของแอ่งหินขนาดใหญ่ ตัวสะพานสูงเท่าตึก 7 ชั้น เป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งนี้
สถานที่เรียนที่น่าสนใจ
University of Utah : http://www.torcheducation.com/?p=2998
สถาบัน : English Language Institute at the University of Utah ที่มีค่าเรียนคุ้มค่าที่สุดของสถาบันภาษาชั้นนำ
การเรียนในชั้นเรียนจะมี Nationality Mixed ที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติ เป็นสถาบันที่ติดอันดับความปลอดภัยมากทีสุด เป็นเมืองที่มีสังคมความเป็นอยู่ด้วยความเป็นกันเอง สำเนียงภาษาไพเราะ และ UTAH ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นเมืองที่สวยทีสุดระดับต้น
Join a great group of classmates from around the world at a top-notch institute with interesting and active classes – and master the English language in one of the safest, healthiest, friendliest and most beautiful cities in the U.S.! At the English Language Institute at the University of Utah, you’ll not only be a part of one of the world’s top universities, but you’ll also become a member of a fast-growing international family connected by the study of English
หลักสูตร: Intensive Academic Prep, TOEFL iBT Test Preparation, English for Special Purposes, Teacher Training, Recreational English
English Language Institute — Important Information on Course Dates and Program Costs
ราคาเริ่มต้นที่ : $/2,200.00
Full-time tuition: $2000.00 per session. Please note that there is an additional $200 fee required for the first session to cover orientation and four ELI Success classes.
ทำเลที่ตั้ง: อยู่บริเวณ Salt Lake City ที่มีสภาพแวดล้อมสวยที่สุดในบรรยากาศการเรียนในมหาวิทยาลัย ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติระดับโลก การเรียนมุ่งให้พัฒนาภาษาารวดเร็วในสภาพแวดล้อมที่คนไทยน้อย แทบจะนับจำนวนหลักหน่วย ที่สำคัญ มีพี่คนไทยเป็นเจ้าหน้าที่ในสถาบันภาษาแห่งนี้ ค่อยช่วยเหลือให้คำแนะนำหากน้องๆที่มีความกังวลในการเดินทางครั้งแรก
Student review
P Baifern : http://www.torcheducation.com/?p=6394
ขอขอบคุณ น้องใบเฟิร์น ที่เลือกไปเรียน ELI @ University of Utah กับ Torch Education ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการตรงของมหาวิทยาลัยยูธ่าห์
Q : ช่วยเล่า background ตัวเองให้ ฟังหน่อยได้มั้ยครับ (จบที่ไหน ทำงานที่ใด)
A: จบปริญญาโทจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล, ปริญญาตรีจากวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันทำงานที่สายการบินนกแอร์ ตำแหน่ง Solution Center Manager ค่ะ
Q: แล้วทำไมถึงตัดสินใจเรียนภาษาที่ Utah ในมุมมองของ Baifern @Pintira Sst https://www.facebook.com/baifern.oopz?fref=ts เลือกเพราะอะไร (ทั้งๆที่มีหลายสถาบันไม่ว่าจะเป็น เอกชน หรือ ของมหาวิทยาลัย อีกหลายประเทศที่เราก็เลือกไปเรียนได้)
A: อันดับแรกเลยคือน้องสาวที่ไปด้วยกันอยากไปเมืองนี้ เนื่องจากมีน้องสาวอีกคนไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน แล้วกลับมาเล่าให้ฟังว่าบ้านเมืองสงบ น่าอยู่ ผู้คนดูเป็นมิตร เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมทำให้ทราบว่า English Language Institute @ University of Utah เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงติดอันดับ top 50 ของอเมริกา รวมถึงมีเพื่อนที่ทำงานอยู่เมืองนี้เสนอให้ไปพักด้วยได้ เลยลงตัวที่เมืองนี้ค่ะ
Q : มองการไปเรียนภาษาครั้งนี้จะส่งเสริม career path ในอนาคตแค่ไหน เชื่อมั่นประสบการณ์ต่างประเทศอย่างอเมริกาแค่ไหน A: ก่อนตัดสินใจไปเรียนยอมรับว่ากังวลว่า อายุเยอะแล้ว ถ้าลาออกจากงานไปจะกลับมาหางานทำลำบาก แต่อีกใจหนึ่งก็ยังเชื่อมั่นว่า จากประสบการณ์การทำงาน บวกกับความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการไปใช้ชีวิตที่อเมริกา จะทำให้กลับมาแล้วหางานทำได้ไม่ยาก
Q: อยากให้เล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกในขอวีซ่า เตรียมตัวขนาดไหน เครียดมากมั้ย โดยเฉพาะอายุคิดมากจุดนี้มั้ย ที่สถานทูตจะเชื่อว่าเราไปเรียนจริงๆ
A: แรกๆก็กลัวว่าจะไม่ผ่าน เนื่องจากอายุ 30 กว่าแล้ว กลัวว่าสถานทูตจะไม่เชื่อว่าไปเรียนจริงๆ แต่พอได้ I-20 ที่ออกจาก English Language Institute @ University of Utah ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ ก็เพิ่มความมั่นใจได้มากทีเดียว ประกอบกับการเตรียมตอบคำถามที่พี่ภูริตช่วยแนะนำว่าควรจะตอบแบบไหน เช่น ถ้าถามว่าเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าที่คุณพูดมาเป็นเรื่องจริง ก็ให้ตอบว่า เราจบจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของไทย และมีประวัติการทำงานที่ดี น่าจะเป็นเครื่องการันตีได้ เป็นต้น ที่สำคัญคือต้องเตรียมเอกสารที่จำเป็นให้ครบ และฝึกตอบคำถามให้แม่น
Q: หากมีหน่วยงานที่ให้คำแนะแนวเป็นที่ปรึกษาด้านการเรียนต่อ และโดยเฉพาะแบบ Torch education ที่มีการให้แนวทางการใช้ชีวิตในต่างประเทศ อยากให้มีบริการใดๆเพิ่มมั้ย หรืออยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับ Torch Education บ้างมั้ย
A: อยากขอบคุณพี่ภูริตที่ช่วยดำเนินการเกือบทุกขั้นตอน อธิบายอย่างละเอียด และคอยตามคอยประสานงานให้ตลอด รู้สึกโชคดีมากที่หาในอินเตอร์เนทแล้วเจอ Torch education
Q: ช่วยฝากหรือแนะนำอะไรให้เพื่อนๆน้องๆก่อนไปเรียน
A: สำหรับคนที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ ลองหาข้อมูลและเลือกประเทศ เลือกเมืองที่อยากไป แล้วมาปรึกษา Torch education ได้ ทุกคนจะได้ข้อมูลที่ละเอียด และได้รับความช่วยเหลืออย่างเอาใจใส่ ไม่ต้องกลัวว่าอายุเยอะแล้ววีซ่าจะไม่ผ่านนะคะ ลองดูก่อนค่ะ ไม่ลองไม่รู้ แล้วถ้าไปอยู่สักพักแล้วจะมารีวิวชีวิตความเป็นอยู่และคอร์สเรียนให้อีกทีนะคะ
#ELI #UTAH #FERN #PLOY #USExpert #F1visa5YearsGurantte #TORCHEducation
P’Ploy : http://www.torcheducation.com/?p=6444
Q : ช่วยเล่า background ตัวเองให้ ฟังหน่อยได้มั้ยครับ (จบที่ไหน ทำงานที่ใด)
A : ตอนตรีจบจาก ม.เกษตร วิศวกรรมศาสตร์ ตอนโทจบจาก จุฬา MBA ค่ะ
Q : ทำไมถึงตัดสินใจเรียนภาษาที่ Utah ในมุมมองของ Ploy เลือกเพราะอะไร (ทั้งๆที่มีหลายสถาบันไม่ว่าจะเป็น เอกชน หรือ ของมหาวิทยาลัย อีกทั้งหลายประเทศที่เราก็เลือกไปเรียนได้)
A : จริงๆ พลอยมองไว้ 2 ที่ คืออังกฤษกะอเมริกา แต่ที่มาเลือกอเมริกา เพราะ เคยไปสัมผัสมาแล้ว คุ้นเคย และเลือก Utah เพราะชอบ เมืองสงบ native speaker เยอะ เมืองใหญ่กว่าเจริญกว่า แต่รู้สึกว่าวุ่นวาย ชอบเงียบๆ อีกอย่างพลอยเคยอ่านเจอว่าที่รัฐนี้การศึกษา 100% แล้วพวกนักบินอวกาศเกษียณก็ชอบไปอยู่กัน แสดงว่าต้องมีอะไรดีค่ะ
Q : ทำไมถึงตัดสินใจเรียนภาษาที่ IEP @ U of Utah
A : เพราะเป็น U ที่มีชื่อเสียงติดอันดับ top 50 ในอเมริกาเลย และค่าเรียนไม่สูงมากด้วยค่ะ
Q : มองการไปเรียนภาษาครั้งนี้จะส่งเสริม career path ในอนาคตแค่ไหน เชื่อมั่นประสบการณ์ต่างประเทศอย่างอเมริกาแค่ไหน
A : ที่แน่ๆเลยคิดว่าคะแนน toeic จะเพิ่มขึ้น แต่พลอยอยากสมัครงานที่ required ว่าต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมาก ทีนี้ก็จะมีใบการันตีว่า จบภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา มันน่าเชื่อถือ งานเงินเดือนสูง บริษัทใหญ่ ที่มองไว้ น่าจะอยู่ใกล้มากขึ้นค่ะ
Q : อยากให้เล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกในขอวีซ่า เตรียมตัวขนาดไหน เครียดมากมั้ย
A : เตรียมเยอะเหมือนกันนะคะ แต่ว่าโชคดีมาก ที่พี่ภูริตคอยแนะว่าควรเครียดอะไรก่อนหลัง 555 เพราะถ้างมเอง คงจับต้นชนปลายไม่ถูก (เคยงมเองแล้วด้วย) โชคดีมากที่มาเจอพี่ภูริต ใส่ใจมาก คอยเตือนนั่นนี่เสมอ พลอยพยายามทำเองให้มากที่สุดด้วย เลยขอคำปรึกษาเยอะเลย ความกังวลใจก็ลดลงเยอะค่ะ
Q : ช่วยเล่ารายละเอียดการทำวีซ่า คำถามวีซ่าแต่ละคำถามและตอบว่าอะไรบ้าง ตื่นเต้นมั้ย รู้สึกยังไง เจอเจ้าหน้าที่ถามยากมั้ย และกังวลเรื่องอะไรบ้าง
A : นัดรอบ 8:30 ไปถึงตอน 7:50 ก็ไปต่อแถวเลย ยังไม่ถึงคิวแต่ปรากฎว่าได้ เจ้าหน้าที่ก็เช็คชื่อในใบของเค้า ขอดู DS160 เขียนเวลานัดลงไปให้ เราก็เดินต่อแถวไปเรื่อยๆ ฝากของแค่มือถือคู่กับบัตรประชาชน แต่ไม่ได้เอาบัตรไป เค้าก็จะมีกระดาษให้เขียนชื่อ ส่วนกระเป๋าเอาเข้าได้ แต่ต้องผ่านเครื่องแสกนเหมือนที่สนามบิน ถ้าอะไรไม่ผ่านก็คงต้องฝาก (แต่ก็ไม่ได้เอาอะไรไปเลย เอาแค่ตังค์เปล่าๆ กับแฟ้มสอดใส่เอกสาร) เดินผ่านจุดแสกนความปลอดภัยเข้าไปเจอจุดนั่งรอ เจ้าหน้าที่จะเรียกเป็นรอบ ตอนไปถึงเรียกรอบ 7:30-8:00 , 7:30-8:15 คนไม่มากเลยนั่งรอไม่นาน พอเรียก 8:00-8:30 ก็ถึงคิวให้เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร ถามว่าเคยมีวีซ่าอเมริกามาก่อนมั้ย ขอดู ขอ I-20 , DS160 ถ้าใครรูปไม่ผ่านจากตรงนี้ เค้าจะรอรูปอื่น ถ้าไม่มีก็ให้เข้าไปถ่ายข้างใน จากนั้นจะเดินเข้าไปต่อแถวข้างใน โดยเราต้องจด tracking no. ที่แปะมาให้เอาไว้ คนไม่เยอะ เลยได้ต่อคิวรวมกับพวก 7:30 ตอนเจอคนไทยที่ตรวจเอกสาร ไม่ถามเลย ไม่อ่านทวน DS160 ด้วย แค่รอพิมพ์นิ้ว รอเจอคนสัมภาษณ์
ส่วนใหญ่ก็ถามแบบที่พี่ภูริตให้เตรียมไปนะคะ
– ไปทำอะไร : ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ U of Utah 1 ปี
– ทำไมไปตั้ง 1 ปี : อยากพัฒนาภาษาอังกฤษด้านแกรมม่า ด้านการเขียน 6 เดือนน่าจะไม่พอ
– ทำอะไรอยู่ : เป็น brand manager อยู่บริษัทขายหนังสือเด็ก
– บริษัททำอะไรนะ : ขายพวก flash card พัฒนาทักษะเด็ก 0-3+ ปี
– ใครเป็น sponsor : คุณพ่อ
– ขอดูหลักฐานหน่อย : ส่ง book bank ตัวจริง ไปให้ก็โอเค จะส่งสำเนาบัตรประชาชนให้แต่เค้าไม่เอา
แล้วเค้าก้อพูดรัวๆเลยว่าวีซ่าจะส่งไปให้หลังจากนี้ ตอนนั้นพลอยงงๆอยู่ว่า อะไรนะ แต่จำพี่ภูริตบอกได้ว่าถ้าเค้าไม่คืนพาสปอร์ตมาเป็นอันว่าผ่าน
ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ตอนตอบกลายเป็นว่าที่เตรียมมาลืมไปบ้าง ด้นสดบ้าง ได้ยินแต่เสียงตอนพี่ภูริตทวนให้ เจอเจ้าหน้าที่ยากสุด ผู้ชาย ผิวสี ดูถามนานกว่าคนอื่น เพราะตอนต่อแถวเห็นมีคนโดนไปเป็น 10 นาที แต่ทำใจไว้ละเพราะไม่เคยมีดวงทางนี้ เจอคนยากแน่ๆ เลยซ้อมคำตอบไว้เยอะ เรื่องกังวล น่าจะเป็นว่า ทำไมไปเรียนภาษาเป็นปีค่ะ
ขอบอกนิดนึงเรื่องรูปถ่าย หลายคนน่าจะกังวล สำหรับคนถ่ายเอง พลอยว่าเค้าแค่อยากให้เห็นหน้าชัด ไม่มีผมมาบังจนเวอร์แบบมองไม่เห็นตาขนาดนั้น รูปพลอย ผมปาดเฉียง แต่ปาดสูง ใส่ตุ้มหู (แต่ตุ้มหูยาวๆ ไม่ติดหูหรือบังหู ด้วยความที่เป็นคนหูไม่กางอย่างมาก ถ่ายรูปมองไม่เห็น เลยใส่ไว้ให้เค้ารู้ว่าเรามีหูนะ 555 แต่แอบโทรถามเจ้าหน้าที่บอกห้ามเครื่องประดับ คือพลอยว่าเค้าคงห้ามพวกเพชรเม็ดเป้งปิดคอปิดหูมากกว่า เลยห้ามรวมๆ ถ้ามันดูแล้วไม่มีอะไรมาบังหน้าตา คิดว่าผ่านหมดค่ะ) ใส่สร้อยคอติดคอแต่เส้นเล็ก ใส่เสื้อมีปกแต่แขนกุด ถ่ายรูปเอง ถ่ายกับกำแพงแล้วกำหนด WB ไว้ตรงกำแพง จริงๆพออัดรูปออกมามันขาวแต่พอลงเวปมันขาวไม่พอ เลยไปปรับตรงฉากให้ขาวเท่ากับ background ในคอมเลย แต่พลอยก็เตรียมรูปที่ผ่านแน่เป็นใบๆไปด้วย(รวบผมเปิดหน้าผากหมด เสื้อเชิ้ตมีแขน ไม่แต่งหน้า ไม่มีเครื่องประดับ แต่ไม่สวย) เผื่อว่ารูปที่ uploaded ไม่ผ่าน จะยื่นรูปนั้นให้ แต่สรุปก็ผ่าน ได้รูปวีซ่าสวยด้วยมือเราค่ะ
Q : หากมีหน่วยงานที่ให้คำแนะแนวเป็นที่ปรึกษาด้านการเรียนต่อ และโดยเฉพาะแบบ Torch education ที่มีการให้แนวทางการใช้ชีวิตในต่างประเทศ อยากให้มีบริการใดๆเพิ่มมั้ย หรืออยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับ Torch Education บ้างมั้ย
A : คิดว่าครบแล้วสำหรับเรื่องบริการที่ได้รับในตอนนี้ค่ะ พูดถึง Torch คือ ดีใจมากที่ได้มาเจอที่นี่ ก่อนหน้านี้พยายามทำเอง ไม่เคยสำเร็จเลย ไม่คืบหน้า พอมาเจอ Torch เจอพี่ภูริต รู้สึกอุ่นใจมากค่ะ มีข้อมูลจริง รีวิวจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ได้รับบริการจริงๆ ให้ได้ศึกษาเตรียมตัว มีตัวอย่าง แนวทางให้ได้ไอเดียเยอะเลยค่ะ และที่สำคัญคือพี่ภูริตแนะนำดีมาก ใส่ใจมาก เกรงใจมากเพราะบางทีเราเองนี่แหละที่แอบช้า อืดๆอาดๆ ช่วยเหลือกันเต็มที่ จริงใจมากค่ะ
Q : ช่วยฝากหรือแนะนำอะไรให้เพื่อนๆน้องๆก่อนไปเรียน
A : การเตรียมตัวที่ดี ตั้งใจกับมัน จะทำให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีค่ะ
สนใจเรียนต่อที่เดียวกับพลอยที่ University of utah –> http://www.torcheducation.com/?p=2998
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.