ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโฮโนลูลู

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโฮโนลูลู

ตามแนวหมู่เกาะฮาวายยังมีพื้นที่เล็กๆ ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือนจำนวนมากในแต่ละปี เกาะโอวาฮู (Oahu) นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นการสำรวจหมู่เกาะฮาวายสำหรับนักเดินทางที่มองหาสวรรค์เขตร้อนในอุดมคติท่ามกลางชายหาดขาวสะอาดและสนุกสนานเริงรื่นกับกิจกรรมริมทะเลที่มีสีสัน โฮโนลูลูเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของฮาวายและเป็นศูนย์กลางหลักด้านต่างๆ เป็นเมืองหลวงที่นำสมัยครบครันด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ตัวเลือกร้านอาหารนานาประเภทและสถาบันทางวัฒนธรรมให้เลือกเที่ยวชมอย่างหลากหลาย

ไม่ว่าคุณกำลังมองหาสิ่งใดก็ตามหมู่เกาะโอวาฮูมีทุกสิ่งที่คุณค้นหา นับตั้งแต่ภูมิทัศน์แบบดั้งเดิมของฮาวายเมื่อครั้งอดีตจนมาถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลกอย่างชายหาดไวกิกิซึ่งมีกิจกรรมบนชายหาดให้เลือกสนุกมากมายจนนับไม่ถ้วน แหล่งช้อปปิ้งในโฮโนลูลูก็มีความน่าสนใจเทียบเท่ากับชายหาดที่มีความสวยงามโดดเด่นพร้อมเกลียวคลื่นซึ่งดึงดูดบรรดานักเล่นเซิร์ฟจากทั่วทุกมุมโลก สถานบันเทิงยามค่ำคืนตั้งกระจายอยู่ทั่วทั้งเมืองรวมถึงบริเวณชายหาดไวกิกิให้คุณเลือกสนุกกับปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยงหรือแบบสบายๆ ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเลือกทำอะไร สิ่งหนึ่งที่คุณสัมผัสได้อย่างชัดเจนคือไมตรีจิตที่แท้จริงของผู้คนชาวท้องถิ่น

โฮโนลูลูเป็นสถานที่ที่มีสภาพอากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางสุดฮิตของนักเดินทางตลอดทั้งปี ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งจะได้สนุกกับกิจกรรมเดินป่าในป่าฝนเขตร้อนหรือเพิ่มความท้าทายด้วยการปีนภูเขาไฟและแหวกว่ายดำดิ่งในเวิ้งน้ำอันกว้างไพศาลของมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงกีฬาทางน้ำที่หลากหลายบนเกาะโอวาฮู

กีฬาเล่นเซิร์ฟถูกคิดค้นขึ้นในฮาวายโดยกษัตริย์ในยุคโบราณ ทั้งนี้ชายฝั่งทางเหนือของเกาะมีแนวคลื่นขนาดใหญ่ที่บอกเล่าต่อกันมาเป็นตำนาน ส่งผลให้บริเวณนี้เป็นจุดโต้คลื่นระดับแนวหน้าของโลก นอกจากนี้เกาะโอวาฮูยังเป็น แหล่งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกที่มีสภาพแวดล้อมสวยงาม อีกทั้งมีสภาพลมแรงจึงดึงดูดเหล่านักเล่นวินด์เซิร์ฟ ไคท์เซิร์ฟและผู้ที่รักการล่องเรือให้หลั่งไหลเข้ามา

มีตัวเลือกของที่พักมากมายทั้งในและบริเวณรอบๆโฮโนลูลู มหานครที่คึกคักแห่งนี้เป็นเมืองหนึ่งในโลกที่มีอัตราค่าครองชีพสูงที่สุด ดังนั้นการมองหาห้องพักราคาประหยัดจึงค่อนข้างทำได้ยาก แม้แต่โรงแรมระดับกลางก็อาจมีราคาสูงจนทำให้คุณต้องพิจารณาอีกครั้ง ดังนั้นควรวางแผนการเดินทางแต่เนิ่นๆ อนึ่งคุณสามารถมั่นใจได้ว่าห้องพักทุกห้องที่บริการมาพร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โรงแรมและรีสอร์ทส่วนใหญ่ตั้งอยู่โดยรอบใจกลางเมือง ย่านเมืองหลวง ย่านริมน้ำ (Waterfront district) ไชน่าทาวน์และบริเวณหาดไวกิกิ

เนื่องจากเกาะโอวาฮูตั้งแยกออกมาอยู่โดดเดี่ยวบริเวณตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิกที่กว้างใหญ่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยการเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อมาที่นี่ ซึ่งโฮโนลูลูมีสนามบินนานาชาติของตนเองรองรับเที่ยวบินต่างๆ จากทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรปและเอเชีย ทำให้นักเดินทางสามารถวางแผนเดินทางรวมถึงเลือกเที่ยวบินได้ค่อนข้างง่ายและสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกเดินทางโดยการล่องเรือแม้ว่าวิธีนี้อาจทำให้คุณมีเวลาจำกัดลงสำหรับท่องเที่ยวสำรวจบนฝั่งก็ตาม

ประวัติศาสตร์โฮโนลูลู

ประวัติศาสตร์โฮโนลูลู

ชนกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเกาะฮาวายอาจจะเป็นกะลาสีเรือชาวโปลีนีเซียจากหมู่เกาะมาร์เคซัสในแปซิฟิกใต้โดยเข้ามาถึงประมาณปี 900 ตามมาด้วยนักเดินเรือจากหมู่เกาะตาฮิติและนิวซีแลนด์ กัปตันเจมส์ คุก นักสำรวจชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงเป็นชาวยุโรปคนแรกที่มาเยือนเกาะฮาวายเมื่อวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1778 โดยช่วงแรกชาวท้องถิ่นให้การต้อนรับชาวต่างชาติเหล่านี้เป็นอย่างดีจนกระทั่งตระหนักถึงหายนะที่พวกเขานำมา ภายในเวลาหนึ่งศตวรรษโรคระบาดในชาวยุโรปได้คร่าชีวิตผู้คนชาวฮาวายไปกว่าร้อยละ 80

การทำลายล้างถัดมาอยู่ในรูปแบบของมิชชันนารีจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 มีความพยายามที่จะโน้มน้าวให้ชาวฮาวายเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์และนับตั้งแต่นั้นพลวัตทางสังคมของหมู่เกาะแห่งนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล มีการก่อตั้งหมู่บ้านแห่งแรกบนเกาะโฮโนลูลูโดยชาวต่างชาติ และในปี 1850 บริเวณท่าเรือเต็มไปด้วยเรือขนสินค้าและเรือเดินสมุทรจำนวนหลายลำ ซึ่งหลายครั้งยามเรือเทียบท่าบรรดาลูกเรือกว่าพันคนขึ้นฝั่งไปเพื่อหาความบันเทิงและมักก่อให้เกิดปัญหา ทำให้ช่วงเวลานั้นคุกในโฮโนลูลูเต็มไปด้วยนักโทษที่ถูกจับกุมอย่างต่อเนื่องแทบไม่เว้นวัน

โฮโนลูลูในช่วงต้นกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าส่วนใหญ่ในแถบแปซิฟิก โดยการค้าน้ำตาลจากการทำไร่อ้อยเป็นผลผลิตสำคัญในช่วงปลายคริสตศตวรรษ 1800 และเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการผลักดันหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนี้ให้กลายเป็นเมืองมั่งคั่งที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ฮาวายยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญเด่นชัดจึงทำให้ประเทศมหาอำนาจทั่วโลกในศตวรรษที่ 19 พยายามแย่งชิงแข่งขันเพื่อให้มีอำนาจการควบคุมเหนือหมู่เกาะแห่งนี้ กลุ่มชาวต่างประเทศที่เป็นพ่อค้าและเกษตรกรกดดันให้สถาบันพระมหากษัตริย์ของฮาวายล้มเลิกการใช้พระราชอำนาจส่วนใหญ่ และในปี 1893 สหรัฐอเมริกาได้ทำรัฐประหารเพื่อล้มล้างราชอาณาจักรโบราณของฮาวาย

สหรัฐอเมริกาได้ผนวกฮาวายเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเมื่อปี 1898 และจัดตั้งเป็นรัฐลำดับที่ 50 ของประเทศในปี 1959 ก่อนที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลายเป็นเศรษฐกิจหลักทำรายได้ให้โฮโนลูลู ในพื้นที่มีการเพาะปลูกสับปะรดและน้ำตาลเป็นผลผลิตหลัก ในช่วงเดียวกับที่ทหารสหรัฐเข้ามาตั้งฐานทัพที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor) และเริ่มปรับตัวให้เข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในฮาวาย ต่อมามีการเปิดตัวโรงแรมแห่งแรกบนชายหาดไวกิกิในปี 1901 และเมื่อเรือจักรกลไอน้ำเดินทางมาถึงโฮโนลูลู ธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในปี 1941 ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเกิดเหตุการณ์โจมตีท่าเรือเพิร์ลฮาร์เบอร์ ทำให้โฮโนลูลูเป็นที่จับตามองของทั่วโลก เมื่อความขัดแย้งต่างๆ ยุติลงหลังสงครามสงบ โฮโนลูลูได้รับความนิยมและกลายเป็นจุดหมายท่องเที่ยวของนักเดินทางในเวลาไม่นาน ในวันนี้เมืองชายหาดแห่งนี้มิได้เป็นเพียงเมืองหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาโดยจำแนกตามความหนาแน่นของจำนวนประชากรเท่านั้นแต่ยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกสำหรับการพักผ่อนและการทำธุรกิจ เนื่องจากโฮโนลูลูเปรียบเสมือนประตูในการเชื่อมต่อไปสู่หมู่เกาะฮาวายที่สวยงามมีเสน่ห์ซึ่งทุกคนต้องแวะมาเยือนเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดอื่นๆ ในรัฐฮาวาย

สภาพอากาศในโฮโนลูลู

สภาพอากาศในโฮโนลูลู

กล่าวได้ว่าโฮโนลูลูอาจมีสองฤดูกาลคือแล้งและฝน แต่มีสภาพอากาศที่อบอุ่นและสดชื่นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 25 องศาเซลเซียสโดยมีค่าความผันผวนน้อยมาก จากสภาพทางภูมิศาสตร์โฮโนลูลูตั้งอยู่ทางด้านใต้ลมของเกาะโอวาฮูส่งผลให้มีสภาพอากาศที่แห้งและร้อนเป็นส่วนใหญ่ ฤดูแล้งเกิดขึ้นระหว่างเดือนช่วงหน้าร้อนตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน ขณะที่ฤดูฝนมาพร้อมฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนโฮโนลูลูอยู่ในช่วงรอยต่อของฤดูกาลได้แก่ เดือนเมษายน พฤษภาคม กันยายนและตุลาคม ซึ่งมีสภาพอากาศค่อนข้างยอดเยี่ยม ความชื้นในอากาศมีไม่มากเกินไปและลมไม่แรงเกินไป นอกจากนี้ช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวจึงมีนักท่องเที่ยวน้อยมาก ห้องพักราคาถูกลงเล็กน้อยและผู้คนในท้องถิ่นอยู่ในอารมณ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น

**ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก google**