การเปลี่ยนสายอาชีพของ น้องวัลย์ Global Bussiness Program at University of Washington,Seattle

Q : ช่วยเล่า background ตัวเองให้ฟังหน่อยมั้ยครับ และมีการเปลี่ยนสายอาชีพเพราะอะไร

A : สวัสดีค่ะ วัลย์ค่ะ วัลย์เรียนจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังจากเรียนจบ วัลย์ทำงานเป็นเลขานุการกลุ่มที่ PricewaterhouseCoopers (PwC) ทำงานได้ 1 ปี ก็คิดที่จะเรียนต่อปริญญาโท และเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์การเงินที่นิด้าค่ะ เพราะส่วนตัวคิดว่าในชีวิตประจำวันและทุกธุรกิจจะต้องมีความรู้ทางด้านการเงินมาเกี่ยวข้อง ก็เลยเลือกเรียนสายนี้ หลังจากเรียนจบปริญญาโท วัลย์ได้เข้าทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญการควบคุมความเสี่ยงด้านตลาด ฝ่ายปฏิบัติการตลาดเงินและตลาดทุน ที่ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งตอนนี้ก็ทำมาประมาณเกือบ 3 ปีแล้วค่ะ

Q : แล้วทำไมถึงตัดสินใจเรียน …… เพราะอะไร

A : ตัดสินใจเรียนคอร์ส Global Bussiness Program ที่ UW เพราะ
1.ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพราะต้องการทำงานในบริษัทข้ามชาติ และทำงานที่ต่างประเทศ (ถ้าเป็นไปได้)
2.สนใจเนื้อหาวิชาของคอร์สที่ไม่ใช่แค่การเรียนภาษาอังกฤษ เพียงอย่างเดียวแต่ได้เรียนรู้เรื่องธุรกิจระหว่างประเทศ และทักษะจำเป็นสำหรับการทำงานด้วย เช่น Bussiness Presentation, International Negotiation
3.เป็นคอร์สของทางมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง University of Washington จึงมีความเชื่อมั่นว่าเป็นคอร์สที่มีคุณภาพ เหมาะแก่การลงทุนไปเรียน

Q : มองการไปเรียน ภาษาใหม่อีกครั้งทำไมทั้งๆที่ได้ภาษาแล้ว มันจะส่งเสริมการเงินได้จริงหรอ

A : ในความคิดเห็นส่วนตัวของวัลย์ วัลย์คิดว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่จำเป็นมากๆ ภาษาหนึ่งที่เป็นสื่อกลางที่ทำให้เราสามารถเรียนรู้อะไรได้หลายๆอย่างทั่วโลก รวมทั้งสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความรู้กับคนหลากหลายเชื้อชาติ ทำให้เรามีความรู้และวิสัยทัศน์ที่กว้างและไกลขึ้น จึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้และทำงานที่ท้าทายขึ้น ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเช่นกันค่ะ

Q : อยากให้เล่าถึงประสบการณ์ในการขอวีซ่า เตรียมตัวขนาดไหน เครียดมากมั้ยโดยเฉพาะเรื่องที่กังวล คิดมากตรงประเด็นไหนและทำไงสถานการณ์เปลี่ยนเยอะมากสถานทูตจะเชื่อว่าเราไปเรียนจริงๆ

A : ในการขอวีซ่าครั้งนี้มีการเตรียมตัวสัมภาษณ์ค่อนข้างเยอะ โดยการอ่านตัวอย่างคำถามและคำตอบของคนที่เคยสัมภาษณ์ผ่านมาแล้วว่าตอบแนวไหน โดยมีพี่ภู (Torch Education) เป็นคนส่งแนวมาให้อ่านเตรียมความพร้อม รวมถึงการเช็คเอกสารให้ว่าเราเตรียมครบหรือไม่ ทำให้การเตรียมสัมภาษณ์ไม่เครียดมากนัก เนื่องจากมีพี่ๆเป็นสายงานที่มือาชีพมากเป็นคนคอยให้คำปรึกษา แต่ก็มีความกังวลที่มีคนรู้จักอยู่ที่นู่น กลัวทางสถานทูตไม่เชื่อว่าเราไปเรียนจริงๆ แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ด้วยการแสดงเอกสารหลักฐานทุกอย่างครบถ้วนตามที่ทางสถานทูตร้องขอ เรารู้รายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตร และแสดงเจตนาและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการไปเรียนครั้งนี้ ทำให้การสัมภาษณ์ครั้งนี้ผ่านมาได้อย่างราบรื่นค่ะ

Q : หากมีหน่วยงานที่ให้คำปรึกษาด้านการเรียนต่อและโดยเฉพาะแบบ Torch Education ที่มีการให้แนวทางการใช้ชีวิตในต่างประเทศ อยากให้มีบริการใดๆเพิ่มมั้ย หรืออยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับ Torch Education บ้างมั้ย

A : ขอบคุณพี่ภูและพี่เก้ Torch Education ที่ช่วยซักซ้อมและแนะนำแนวทางการตอบสัมภาษณ์วีซ่าเป็นอย่างดี รวมถึงการแนะนำเพื่อนใหม่ที่ไปเรียนคอร์สเดียวกับวัลทั้งเพื่อนที่ไปเรียนอยู่ก่อนแล้ว และกำลังจะไปเรียนให้วัลได้รู้จักค่ะ ก็ช่วยลดความกังวลในการไปเรียนได้ส่วนหนึ่งค่ะ