Top Hit Cities: in Australia (Brisbane, Sydney, Melbourne, Perth)
ออสเตรเลีย (อังกฤษ: Australia) หรือชื่อทางการคือ เครือรัฐออสเตรเลีย (Commonwealth of Australia)[5] เป็นประเทศซึ่งประกอบด้วยแผ่นดินหลักของทวีปออสเตรเลีย, เกาะแทสเมเนีย และเกาะอื่น ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิก และมหาสมุทรใต้ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับหกของโลกเมื่อนับพื้นที่ทั้งหมด ประเทศเพื่อนบ้านของออสเตรเลียประกอบด้วย อินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินีและติมอร์-เลสเตทางเหนือ หมู่เกาะโซโลมอน วานูอาตู และนิวแคลิโดเนียทางตะวันออกเฉียงเหนือ และนิวซีแลนด์ทางตะวันออกเฉียงใต้
เป็นเวลาอย่างน้อย 40,000 ปี[6] ก่อนที่จะตั้งถิ่นฐานครั้งแรกของอังกฤษในศตวรรษที่ 18,[7][8] ประเทศออสเตรเลียเป็นที่อยู่อาศัยของชาวออสเตรเลียพื้นเมือง[9] ที่พูดภาษาที่แบ่งออกได้เป็นกลุ่มประมาณ 250 ภาษา.[10][11] หลังจากการค้นพบของทวีปโดยนักสำรวจชาวดัตช์ในปี ค.ศ. 1606, ครึ่งหนึ่งของฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียถูกอ้างว่าเป็นของสหราชอาณาจักรในปี ค.ศ. 1770 และตั้งรกรากในขั้นต้นโดยการขนส่งนักโทษมายังอาณานิคมของนิวเซาธ์เวลส์จากวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 1788 จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทศวรรษที่ผ่านมา ทวีปถูกสำรวจ และอีกห้าอาณานิคมปกครองตนเองของพระมหากษัตริย์ถูกจัดตั้งขึ้น
เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1901 หกอาณานิคมถูกตั้งขึ้นเป็นสหพันธ์, รวมตัวกันเป็นเครือรัฐออสเตรเลีย. ตั้งแต่นั้นมา ออสเตรเลียยังคงรักษาระบบการเมืองเสรีนิยมประชาธิปไตยที่มั่นคง ที่ ทำหน้าที่เป็นรัฐสภาประชาธิปไตยของรัฐบาลกลางและพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ สหพันธ์ประกอบด้วยหกรัฐ และอีกหลายพื้นที่ ประชากร 23.1 ล้านคน[12] อยู่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่และมีความหนาแน่นอย่างมากในรัฐทางตะวันออก[13]
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกที่มีเศรษฐกิจ ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ของโลก ในปี ค.ศ. 2012 ออสเตรเลียมีรายได้ต่อหัวที่สูงที่สุดอันดับห้าของโลก[14] ค่าใช้จ่ายทางทหารของออสเตรเลียมากที่สุดเป็นอันดับที่ 13 ของโลก ด้วยดัชนีการพัฒนามนุษย์ที่สูงที่สุดอันดับที่สองทั่วโลก, ออสเตรเลียถูกจัดอันดับที่สูงในการเปรียบเทียบระหว่างประเทศจำนวนมากของประสิทธิภาพการทำงานในระดับชาติ เช่น คุณภาพชีวิต, สุขภาพ, การศึกษา, เสรีภาพทางเศรษฐกิจ, และการปกป้องเสรีภาพของพลเมืองและสิทธิทางการเมือง.[15] ออสเตรเลียเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ, G20, เครือจักรภพแห่งชาติ, ANZUS, องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD), องค์การการค้าโลก, ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกและหมู่เกาะแปซิฟิกฟอรั่ม
Brisbane (บริสเบรน)
บริสเบน (อังกฤษ: Brisbane) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของรัฐควีนส์แลนด์ประเทศออสเตรเลีย อีกทั้งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับที่ 3 ของประเทศออสเตรเลีย มีจำนวนประชากรเกือบ 2.2 ล้านคน โดยถ้ารวมทั้งรัฐควีนสแลนด์แล้วจะมีมากกว่า 4.5 ล้านคน บริสเบนเป็นเมืองที่อยู่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก และมีแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ไหลผ่านบนที่ราบระหว่างมอร์ทันเบย์ (Moreton Bay) กับเทือกเขาเกรตดิไวดิง (Great Dividing Range) ส่วนชื่อเมืองตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ เซอร์โทมัส บริสเบน (Sir Thomas Brisbane).
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
สะพานสตอรี

สะพานสตอรีไม่ใช่สะพานข้ามแม่น้ำบริสเบนธรรมดาๆ แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และมีจุดปีนขึ้นชมสำหรับคนรักความตื่นเต้น คุณจะมีโอกาสได้ชื่นชมโครงสร้างเหล็กกล้าที่สอดประสานกันอย่างแข็งแกร่ง ปีนขึ้นด้านบนเพื่อชมทัศนียภาพตระการตา และชมความงามอีกแบบของสะพานภายใต้แสงประดับในยามที่ตะวันลับฟ้าไปแล้ว
สะพานเหล็กที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกนี้เป็นโครงการของรัฐบาล สร้างขึ้นในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เพื่อช่วยบรรเทาความยากจน ตั้งชื่อตามข้าราชการแห่งรัฐควีนส์แลนด์ John Douglas Story ขอเชิญชมสิ่งก่อสร้างประวัติศาสตร์นี้ที่ยังคงใช้เป็นทางสัญจรหลักเส้นหนึ่งของเมืองบริสเบนในปัจจุบัน หากต้องการชมสะพานให้เต็มตา ขอแนะนำทัวร์ทางเรือหรือเฟอร์รีสาธารณะที่แล่นในแม่น้ำบริสเบน ทัวร์หลายรายการและบริการเรือเฟอร์รีทั้งหมดจะออกเดินทางจากท่าเรืออีเกิลสตรีท ซึ่งมีร้านอาหารชั้นยอดให้เลือกมากมายด้วย
จุดที่น่าตื่นเต้นที่สุดของสะพานส่วนหนึ่งคือบริเวณที่ใช้ปีนขึ้นและโรยตัวลงมา ถ้าอยากตอบรับความท้าทายนี้ โปรดจองทัวร์ล่วงหน้า สวมอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่มีให้ และติดตามไกด์ผู้ให้ข้อมูลขึ้นไปบนแท่นเหล็ก ที่ข้างบนนั้น คุณจะได้เห็นทิวทัศน์อันน่าประทับใจเหนือแม่น้ำบริสเบนที่คดเคี้ยว ตั้งแต่กลุ่มเทือกเขา Scenic Rim ไปจนถึงอ่าว Moreton ที่มีน้ำทะเลสะท้อนประกายแดดระยิบระยับ แม้กิจกรรมนี้จะใช้เงินไม่น้อย แต่ก็ปลอดภัยและเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
ส่วนใครที่ชอบลุยๆ ก็สามารถลองโรยตัวจากสะพานได้ คุณจะได้หย่อนตัวลงอย่างน่าตื่นเต้นทางด้านข้างของสะพานโดยมีผู้ดูแลอย่างดี และจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามกว้างไกลของเมือง
ในเวลากลางคืน คุณอาจเดินเลียบแม่น้ำบริสเบนและชื่นชมสะพานนี้ซึ่งสว่างไสวไปด้วยแสงไฟหลากสี ส่วนใครที่โชคดีได้มาเยือนสะพานนี้ในเทศกาลบริสเบนเดือนกันยายนหรือในวันส่งท้ายปีเก่า ก็จะมีโอกาสเห็นสะพานและแม่น้ำสว่างไสวไปด้วยแสงไฟจากพลุอันน่าตื่นตาตื่นใจ
ทัวร์จะออกจากปลายสะพานฝั่งแคงการูพอยท์ ซึ่งไปถึงได้โดยรถประจำทางหรือรถยนต์ส่วนตัว ทัวร์ปีนและโรยตัวไม่อนุญาตให้นำกล้องถ่ายรูปไปด้วย แต่จะมีช่างภาพมืออาชีพติดตามนักท่องเที่ยวไปทุกกลุ่ม ใต้ฝั่งแคงการูพอยท์ของสะพานเป็นที่ตั้งของโรงแรม Story Bridge อันเก่าแก่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนนิยมไปรับประทานอาหาร
ศาลาว่าการบริสเบน

ด้วยเพดานที่ตกแต่งด้วยภาพลานตาซึ่งผันเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา กอปรกับผลงานศิลปะสมัยใหม่ที่ดูแปลกตาในพิพิธภัณฑ์บริสเบน จึงทำให้ศาลาว่าการบริสเบนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดการมาเยี่ยมชม เมื่อมาที่บริสเบน
ศาลาว่าการบริสเบนสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1920 ทำจากหินทราย หินอ่อน ไม้ต้นเมเปิลและต้นซิลค์กี้โอ๊คที่ปลูกในรัฐควีนสแลนด์ เป็นรูปแบบอาคารทรงคลาสสิก และสัญลักษณ์โดดเด่นประจำเมืองบริสเบน โดยต้นเสาที่สวยสะดุดตา หอระฆังสูงตระหง่าน และนาฬิกาทั้งหมดรวมกันได้กลายมาเป็นโลโก้ประจำเมืองบริสเบน
เดินเข้ามาที่ศาลาว่าการจากทางจัตุรัสคิง จอร์จ (King George Square) ผ่านห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีบันไดหินอ่อนอลังการ พื้นกระเบื้องโมเสก และโคมไฟระย้าโบราณตกแต่งไว้อย่างวิจิตร แวะไปที่หอประชุมหลักเพื่อเพลิดเพลินกับคอนเสิร์ต และดูเครื่องออร์แกนฟาเธอร์ เฮนรี วิลลิส (Father Henry Willis) อันเขื่องที่สร้างขึ้นในปี 1892 ผนังที่มีการตกแต่งด้วยศิลปะปูนปลาสเตอร์อันหรูหรา และไฟ LED ที่ประดับประดาบนเพดานข้างใต้หลังคาโดม ให้กำเนิดบรรยากาศที่หาที่ไหนเปรียบไม่ได้
ขึ้นลิฟต์แบบโบราณไปยังแพลตฟอร์มชมวิวที่ตั้งอยู่ภายในหอนาฬิกาของศาลากลาง เพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามของจัตุรัสคิงจอร์จ ห้างสรรพสินค้าควีน สตรีท มอลล์ และเมืองโดยรอบ
แวะชมนิทรรศการหอศิลป์ภายในพิพิธภัณฑ์บริสเบนบนชั้น 3 ซึ่งมีการจัดแสดงภาพถ่ายและผลงานศิลปะมีการคัดสรรมาให้คุณชมอย่างพิถีพิถัน โดยจะแสดงผลงานของศิลปินชาวบริสเบนในอดีตสลับกับศิลปินร่วมสมัยชาวบริสเบนในยุคปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน และไม่มีค่าเข้าชม
ศาลาว่าการบริสเบนยังมีห้องที่น่าสนใจอื่นๆ รอให้คุณได้สำรวจ อย่างอินอกเกอรา คอร์ทยาร์ด (Enoggera Courtyard) ที่ซึ่งคุณจะได้เห็นอาคารหินกรวดแบบดั้งเดิม และท่อระบายน้ำที่ค้นพบในระหว่างการขุดเจาะทางโบราณคดีใต้อาคาร ชมของขวัญจากบ้านพี่เมืองน้องของเมืองบริสเบนทั่วโลกในห้องซิสเตอร์ ซิตี้ส์ (Sister Cities Room) บนชั้น 2 เข้าร่วมทัวร์ฟรีที่มีให้บริการตลอด 7 วัน เพื่อศึกษาลักษณะสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์เบื้องหลังของสิ่งปลูกสร้างอันเป็นสัญลักษณ์ประจำกรุงบริสเบนอย่างศาลาว่าการบริสเบนแห่งนี้เพิ่มเติม
เมื่อคุณสำรวจเสร็จแล้ว ให้ตรงไปที่ชิงเกิล อินน์ (Shingle Inn) ที่ตั้งอยู่ภายในศาลาว่ากลาง เพื่อไปจิบชายามบ่าย หรือเพลิดเพลินกับบรรยากาศของตลาดทไวไลต์ มาร์เก็ตส์ (Twilight Markets) และฟังดนตรีสดที่จัตุรัสคิงจอร์จในคืนวันศุกร์ ร้านกาแฟและบาร์ในจัตุรัสก็เป็นอีกที่ที่เหมาะแก่การชื่นชมศาลาว่ากลางบริสเบนในยามค่ำคืน เนื่องจากจะมีการจุดแสงไฟสีทองเรืองรองตรงตัวเสาทรงคลาสสิกและประติมากรรมด้านหน้า และหากมาในช่วงงานเฉลิมฉลองพิเศษ ก็จะมีการเปิดแสงไฟสีละลานตาอีกด้วย
ศูนย์การค้าไชน่าทาวน์

ตามใจปากด้วยการไปเยี่ยมชมร้านอาหารในศูนย์การค้าไชน่าทาวน์ที่เปิดให้คนเดินในเมืองบริสเบน เสี้ยวเล็กๆ ของเอเชียตะวันออกในใจกลางเมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ท่ามกลางส่วนอื่นๆ ที่เป็นออสเตรเลียทั้งหมด
ศูนย์การค้าไชน่าทาวน์ของเมืองบริสเบนเป็นย่านที่ตั้งอยู่บนถนนสายเดียว สังเกตได้จากซุ้มประตูที่มีหลังคาแบบเก๋งจีนโบราณ เดินผ่านระหว่างสิงโตหินคู่ที่ยืนปกป้องผู้ที่อยู่ข้างในจากวิญญาณชั่วร้ายและต้อนรับผู้มาเยือน
ศูนย์การค้าไชน่าทาวน์เปิดให้บริการในวันตรุษจีนของปีเถาะ ในปีค.ศ. 1987 ซึ่งได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของทิวทัศน์เมืองของบริสเบน แม้ว่าที่นี่จะไม่ได้เป็นศูนย์กลางอาหารเอเชียของเมืองบริสเบนอีกต่อไปแล้ว โดยตำแหน่งนี้ถูกยกให้กับย่านชานเมืองซันนีแบงก์ที่มีวัฒนธรรมหลากหลายในแบบเฉพาะตัว แต่ที่นี่ก็เป็นทำเลศูนย์กลางมากที่สุดและอยู่ใกล้ที่สุดกับแหล่งบันเทิงยามราตรีของฟอร์ติจูดแวลลีย์
คุณสามารถหาซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยว เครื่องเทศของเอเชีย เป็ดปักกิ่ง และซอสรสจัดจ้านได้จากร้านขายของชำจากต่างแดนริมถนนสายนี้ เพื่อนำไปประกอบอาหารเลี้ยงที่บ้าน แต่การออกไปรับประทานนอกบ้านก็ราคาย่อมเยาพอๆ กัน เพียงแค่เดินตามกลิ่นไปยังร้านอาหารสักแห่งบนถนนสายนี้ คุณก็จะพบกับเมนูที่มีทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ติ่มซำหรือซาลาเปาไส้หมูไปจนถึงข้าวผัดเจ หากคุณไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดีระหว่างอาหารจีน เวียดนาม ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ไทย หรือว่าเกาหลี คุณก็แค่กลับมาใหม่เรื่อยๆ เพื่อรับประทานมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ
ชิมอาหารหลายๆ ชนิดตามใจชอบ เนื่องจากมีราคาย่อมเยามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของออสเตรเลีย ร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นแบบ BYO ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถประหยัดเงินได้ด้วยการนำเบียร์หรือไวน์มาเอง พออิ่มหนำสำราญดีแล้ว ออกไปร่วมฝูงชนที่ทันสมัยในไนท์คลับในบริเวณใกล้เคียง
กลับมาอีกครั้งในวันเสาร์หรืออาทิตย์ เพื่อซื้อเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับกระจุกกระจิกราคาถูกที่ตลาดนัดสุดสัปดาห์ หากคุณบังเอิญมาเที่ยวในช่วงงานฉลองเทศกาลตรุษจีนในช่วงฤดูร้อน ชมการแสดงเชิดสิงโต ลิ้มรสอาหารริมทางสไตล์เอเชียดั้งเดิม และชมพลุดอกไม้ไฟ
ศูนย์การค้าไชน่าทาวน์อยู่บนถนนดันแคน (Duncan Street) ในระยะสั้นๆ แต่ย่านไชน่าทาวน์มีเนื้อที่ครอบคลุมถนนโดยรอบด้วย ที่จอดรถบนถนนแบบติดมิเตอร์มีจำกัดและมีราคาแพง ที่จอดรถบนถนนกิปส์ (Gipps Street) รองรับไชน่าทาวน์ได้ดีที่สุด แต่ค่าจอดรถอาจแพงกว่าค่าอาหารของคุณเสียอีก ประหยัดเงินด้วยการเดินมาที่นี่ หรือขึ้นรถไฟหรือรถประจำทางไปยังฟอร์ติจูดแวลลีย์
เทรเชอรี บิลดิ้ง

อาคารเทรเชอรี บิลดิ้ง อันเก่าแก่ของบริสเบนแห่งนี้สร้างขึ้นจากหินทราย โดยมีส่วนหน้าของอาคารที่งดงาม พร้อมสถาปัตยกรรมที่มีกลิ่นอายแบบอิตาลีสมัยศตวรรษที่ 16 เข้าไปภายในอาคารเพื่อร่วมกิจกรรมสนุกๆ มากมาย
ชมการแสดงยามค่ำคืนในบาร์ของคาสิโนที่มีให้เลือกหลายแห่ง ไปที่ชั้นเล่นพนันเพื่อชมโต๊ะพนันและเครื่องเล่นนับร้อยที่มีผู้ใช้บริการอยู่ รับประทานอาหารอย่างมีสไตล์ที่ร้านอาหารหนึ่งในห้าแห่งของคาสิโน ซึ่งเสิร์ฟอาหารนานาชาติฝีมือเชฟชื่อดัง ร้านอาหารให้บริการสำหรับเด็กๆ ตามเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น ดังนั้นโปรดตรวจสอบล่วงหน้าหากเดินทางมาเป็นครอบครัว
เพลิดเพลินไปกับสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสำนักงานของรัฐ และเข้าพักในโรงแรมหรูหราที่อยู่ภายในอาคาร เพดานสูงและการตกแต่งแบบดั้งเดิมช่วยสร้างบรรยากาศย้อนยุคที่มีเสน่ห์ให้กับใจกลางเมืองสมัยใหม่แห่งนี้
ชื่นชมความงามของอาคารเทรเชอรี บิลดิ้ง จากควีนสตรีทมอลล์ ขณะเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมสาธารณะที่จัดขึ้นเป็นประจำ ลิ้มลองผลิตผลที่ปลูกในครัวเรือน และจิบกาแฟร่วมกับคนในท้องถิ่นที่ตลาดนัดเกษตรกรซึ่งจัดขึ้นทุกสัปดาห์ ตามหาสินค้าราคาถูกจากตลาดนัดที่จัดขึ้นทุกสองสัปดาห์ คุณจะพบกับเสื้อผ้าแบบวินเทจ เครื่องประดับ และของเบ็ดเตล็ดมากมายที่คนท้องถิ่นนำมาจำหน่าย สวมรองเท้าที่เหมาะสำหรับเต้นแล้วมุ่งหน้าไปที่ลานเต้นซัลซ่ากลางแจ้งของศูนย์การค้า
ขึ้นรถทัวร์สองชั้นเปิดหลังคาที่ออกจากภายนอกอาคารเทรเชอรี บิลดิ้ง และชมรอบๆ ตัวเมืองจากที่สูง คุณสามารถซื้อตั๋วได้ทั้งทางออนไลน์ หรือผ่านทางเอเจนท์
อาคารเทรเชอรี บิลดิ้ง อยู่ใกล้กับบริการรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ และเรือเฟอร์รี่ และตั้งอยู่ในบริเวณควีนสตรีทมอลล์ ในย่านธุรกิจศูนย์กลางของบริสเบน ชั้นเล่นพนันของคาสิโนเปิดตลอด 24 ชั่วโมง และเข้าได้เฉพาะผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 18 ปีเท่านั้น
เดินข้ามสะพานวิลเลียม จอลลี ที่อยู่ติดกันเพื่อไปยังโรงละครและหอศิลป์ต่างๆ ของย่านวัฒนธรรม จากคาสิโน เดินเล่นริมแม่น้ำไปอีก 1 กิโลเมตร เพื่อไปยังสวนพฤกษศาสตร์ที่เงียบสงบประจำเมืองบริสเบน คุณสามารถขึ้นรถไฟเพื่อไปยังสนามบินในประเทศของบริสเบนได้จากสถานีกลางที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
สถานที่เรียนที่น่าสนใจ
Review นักเรียนที่ไปเรียน Shafston International College 3 ปีล่าสุด
Review Shafston International College, Brisbane/Gold Coast (AUS)
Sydney (ซิดนีย์)
ซิดนีย์ เป็นเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีประชากรมากว่า 4 ล้านคนและเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย ซิดนีย์ ตั้งขึ้นเมืองปี พ.ศ. 2331 บนหาดฝั่งทางตะวันออกของออสเตรเลียเมื่ออาร์เธอร์ ฟิลิปป์ และลูกเรือขึ้นฝั่งและอ้างกรรมสิทธิของอังกฤษเหนือดินแดนออสเตรเลีย
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์
ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ (Darling Harbour) คือ อีกย่านหนึ่งของซิดนีย์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก และมีความคึกคักอยู่ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน เนื่องจากเป็นย่านที่บรรยากาศดี มีร้านอาหารอร่อยๆ มีแหล่งช้อปปิ้ง โรงภาพยนตร์จอยักษ์ ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ รวมถึงพื้นที่และสวนสาธารณะที่ประชาชนสามารถมาหาความเพลิดเพลินและใช้พักผ่อนหย่อนใจกันได้ตลอด
ประวัติความเป็นมาของดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์
ชาวอะบอริจิน ชนพื้นเมืองของออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งของซิดนีย์เรียกดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์(Darling Harbour) ว่า ”ทัมบาลอง” (Tumbalong) หมายถึง สถานที่ที่พบอาหารทะเล ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของอ่าวซิดนีย์ เป็นย่านที่รวบรวมเอาร้านอาหารบรรยากาศริมทะเล ผับ บาร์ และร้านค้าต่างๆ เอาไว้มากมาย มีกิจกรรมหลากหลายสำหรับทุกเพศทุกวัย
ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์เดิมเป็นชุมชนและที่ตั้งของท่าเรืออุตสาหกรรมเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองที่มีสภาพค่อนข้างทรุดโทรม ต่อมาในปี ค.ศ.1980 ทางการของเมืองจึงได้วางแผนปรับปรุงเปลี่ยนโฉมท่าเรือเก่าแห่งนี้ด้วยงบประมาณก้อนยักษ์ เพื่อดำเนินการปรับปรุงให้เป็นสถานที่ที่ชาวเมืองสามารถมาพักผ่อนหาและหาความเพลิดเพลินได้ พิธีเปิดดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์อย่างเป็นทางการมีขึ้นในปี ค.ศ. 1988 ในวาระการฉลองอายุครบ 200 ปีของประเทศออสเตรเลีย
ซิดนี่ย์โอเปร่าเฮาส์
หนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มหัศจรรย์ อีกแห่งหนึ่งในยุคปัจจุบัน คือ โรงอุปรากรซิดนีย์ หรือ ซิดนีย์โอเปราเฮาส์ ( Sydney Opera House) ที่รู้จักกันดีทั่วโลก ที่รัฐบาลของออสเตรเลียได้ตั้งใจมุ่งมั่นสร้างขึ้นให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจ โดยการเปิดให้มีการประกวดแบบจากสถาปนิกชื่อดังต่างๆทั่วโลก แต่กลับเป็นว่าผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ กลับเป็นสถาปนิกชาวเดนมาร์ก ชื่อนายยอน อุตซอน (J?rn Utzon) ซึ่งขณะนั้นไม่ได้เป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียง แต่ประการใด แบบที่นาย อุตซอน ส่งเข้าประกวด ก็เป็นแบบสเกตส์แบบง่ายๆ แต่concept มันโดดเด่น โดนใจคณะกรรมการส่วนใหญ่ จึงได้รับเลือกให้เป็นแบบชนะเลิศ และด้วยความที่นายยอน อุตซอน ไม่ได้คิดแบบอย่างละเอียดนี่เอง ทำให้การก่อสร้างสถาปัตยกรรมรูปแบบคล้ายใบเรือซ้อนเล่นลม หรือเปลือกหอยแห่งนี้ ต้องใช้เทคโนโลยี่การก่อสร้างขั้นสูง และใช้งบประมาณก่อสร้างอย่างมหาศาล ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2516 หรือ 34 ปีก่อน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 9 ปี แม้ว่าจะใช้เทคโนโลยี่ใหม่ๆ และเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย จนออกมาเป็นรูปร่างอย่างที่เห็น และนายยอน อุตซอน ก็โด่งดังขึ้นมาติดทำเนียบสถาปนิกชั้นนำของโลกอย่างสง่าผ่าเผย ซิดนีย์โอเปราเฮาส์ ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวซิดนีย์ นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย แม้ว่าโรงอุปรากรแห่งนี้ จะไม่ได้เก่าแก่เป็นหลายร้อยปี เหมือนโบราณสถานที่เป็นมรดกโลกทั่วไป แต่องค์การยูเนสโกได้ ลงทะเบียนให้โรงอุปรากรซิดนีย์เป็นมรดกโลก ไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ด้วยเหตุผลที่ว่า โอเปร่าเฮาส์ เป็นสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่สมัยศตวรรษที่ 20 ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมได้อย่างกลมกลืน มีสภาพภูมิทัศน์ริมน้ำที่โดดเด่น หันหน้าไปสู่สะพานฮาร์เบอร์ และมีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมมายาวนาน
- ที่ตั้งของโอเปราเฮาส์ มีจุดชมทัศนียภาพของอ่าวซิดนีย์ ที่สวยงาม มีพื้นที่ประมาณ 1.8 เฮกเตอร์ 4.5 เอเคอร์ โดยภายในอาคารประกอบไปด้วยห้องต่างๆดังนี้
โรงแสดงคอนเสิร์ต มีความจุ 2,679 ที่นั่ง มีไปป์ออร์แกนที่ใหญ่ที่สุดในโลก - โรงอุปรากร มีความจุ 1,547 ที่นั่ง
- ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติประเทศออสเตรเลีย โรงละคร มีความจุ 544 ที่นั่ง
- เพลเฮาส์ มีความจุ 398 ที่นั่ง
- โรงภาพยนตร์ มีความจุ 364 ที่นั่ง
- และส่วนอื่นๆ ประกอบด้วย สตูดิโอสำหรับซ้อม 5 ห้อง ภัตตาคาร 4 ร้าน บาร์ 6 ร้าน และส่วนบริการอื่นๆ
ในความพยายามสร้างหลังคาโค้ง ของอาคารโอเปราเฮาส์นี้
ต้องใช้เงินมากถึง 102 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ใช้กระเบื้องเซรามิกหลายล้านแผ่น
สวนพฤกษศาสตร์

สวนพฤกษศาสตร์หลวงซิดนีย์ ตั้งอยู่ที่ Farm Cove ริมฝั่งตะวันออกของย่านธุรกิจของซิดนีย์ ใกล้กับโอเปร่าเฮ้าส์ สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1816 เป็นสวนจัดภูมิทัศน์ที่กว้างขวาง ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 74 เอเคอร์ เป็นที่ศึกษาเกี่ยวกับพืชสวนในใจกลางเมืองซิดนีย์ โดยภายในสวนพฤกษศาสตร์หลวงของซิดนีย์ได้มีการจัดภูมิทัศน์สวยงาม จัดแสดงพืชพันธุ์ไม้ต่างแดนที่หายากและพืชประจำถิ่นที่ถูกคุกคามและใกล้สูญพันธุ์ โดยสวนพฤกษศาสตร์หลวงซิดนีย์ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันวิทยาศาสตร์ (Scientific Institution) ที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลียและยังเป็นหนึ่งในสถาบันพฤกษศาสตร์ (Historic Botanical Institution) ที่สำคัญที่สุดในโลกอีกด้วย
ภายในสวนพฤกษศาสตร์หลวงซิดนีย์แบ่งเป็นโซนต่างๆ ที่จัดแสดงพืชพันธุ์ต่างๆ ที่น่าสนใจหลากหลาย รวมถึงมี The Calyx ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของสวนพฤกษศาสตร์ เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการ อาหาร การช็อปปิ้ง และกิจกรรมและเวิร์คช็อปที่น่าตื่นเต้นมากมาย
ขณะเที่ยวชมสวนพฤกษศาสตร์หลวงแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สำรวจศูนย์รวมแห่งสวนไม้ประดับ สวนผลไม้ และเรือนต้นไม้ เรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของอาณาจักรพืชอันละลานตาตลอดทางเดินรอบๆ สวน ทั้งพืชต่างแดนและพืชประจำถิ่น รวมถึงต้นไม้โบราณที่มีอายุเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยการตั้งรกรากของชาวยุโรปในพื้นที่นี้อีกด้วย
พืชพันธุ์ต่างๆ ภายในสวนพฤกษศาสตร์ซิดนีย์ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรม ระบบนิเวศที่น่าสนใจ และศิลปวัตถุทางประวัติศาสตร์ของชาวอะบอริจิน ชนเผ่าพื้นเมืองของออสเตรเลียที่ยังคงถูกบอกเล่าและส่งสารให้ผู้คนได้ทราบถึงความสำคัญต่อๆ กันมาถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวคือรถไฟสีแดงขบวนเล็กๆ Choo Choo Express ที่พาทัวร์ชมรอบๆ สวนพฤกษศาสตร์หลวงซิดนีย์ สร้างความตื่นตาตื่นใจและความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ที่มาเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดีในทุกๆ เที่ยว
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซิดนีย์ซีไลฟ์
ซีไลฟ์ซิดนีย์ เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1988 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดมหึมาแห่งนี้เป็นหนึ่งในอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความจุน้ำขนาด 6 ล้านลิตร ซึ่งจัดแสดงชีวิตสัตว์โลกใต้ทะเลของออสเตรเลียร่วม 13,000 ตัวจากกว่า 700 สปีชีส์ อควาเรียมแห่งนี้ยังเป็นบ้านของฉลามและปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงสัตว์ทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดของออสเตรเลีย เช่น พะยูนและปลาเขตร้อนสีสันสวยงาม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ รวมทั้งหมด 12 ธีมโซนด้วยกัน
นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซิดนีย์ยังเป็นที่แรกของโลกที่จัดแสดง Penguin Expedition ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับอาณานิคมอันงดงามของเพนกวินราชาหรือเพนกวินจักรพรรดิ (King Penguins) และเพนกวินเจนทู (Gentoo Penguins) อย่างใกล้ชิด และพานักท่องเที่ยวล่องแก่งผ่านการเดินทางใต้แอนตาร์กติกท่ามกลางหิมะกระหน่ำและแสงใต้ (Southern lights) อันตระการตา
สวนสนุกลูน่า พาร์คแห่งซิดนีย์ แบบไม่จำกัดเครื่องเล่น
ใช้เวลาหนึ่งวันแบบอัดแน่นด้วยความมันส์แบบไม่มียั้งและความสนุกสนานด้วยบัตรผ่านแบบไม่จำกัดเครื่องเล่นที่สวนสนุกลูน่า พาร์ค ด้วยบัตรนี้ คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับสุดยอดเครื่องเล่นทั้ง 24 เครื่องในสวนสนุก ซึ่งรวมถึงโรลเลอร์โคสเตอร์กระตุ้นอะดรีนาลีน บ้านมหัศจรรย์แสนสนุก และเครื่องเล่นชวนหัวเราะเหมาะสำหรับทั้งครอบครัวย้อนเวลาไปในอดีตทันทีที่คุณก้าวเข้ามาใน Luna Park ด้วยบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวันวาน สวนสนุกแห่งนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1959 และอุทิศตนเพื่อให้ความบันเทิงผู้มาเยือนมานับแต่นั้น ใช้บัตรเล่นเครื่องเล่นแบบไม่จำกัดของคุณให้คุ้มค่าในการขึ้นเครื่องเล่นสุดระทึกเครื่องใดก็ได้ทั่วสวนสนุก ผู้รักการผจญภัยต้องลองสัมผัสเครื่องเล่นที่จะทำให้คุณแหกปากตะโกนและหัวใจเต้นระทึกอย่างโรลเลอร์โคสเตอร์ Wild Mouse ซึ่งจะทำให้คุณกรีดร้องในทุกเนินลาด แนวโค้ง และจุดทิ้งดิ่งเหนืออ่าวซิดนีย์ หรือเครื่องเล่นที่ตั้งชื่อได้เหมาะเจาะว่า Hair Raiser (ขนหัวลุก) ซึ่งจะพาคุณลอยฟ้าขึ้นไปสูง 50 เมตร (164 ฟุต) ก่อนจะทิ้งคุณดิ่งกลับลงมาสู่พื้นด้วยความเร็ว 80 กม. ต่อชั่วโมง (50 ไมล์ต่อชั่วโมง)หากต้องการพักจากความตื่นเต้น ขึ้นนั่งชิงช้าสวรรค์แบบดั้งเดิมเพื่อค่อยๆ ลอยขึ้นไปชมทิวทัศน์เส้นขอบฟ้าอันงดงามของซิดนีย์ หรือมุ่งหน้าไปที่ Coney Island และสำรวจเครื่องเล่นสำหรับครอบครัวต่างๆ เช่นสไลเดอร์ลื่นไถลและเขาวงกตกระจกแสนพิศดาร ใช้เวลาทั้งวันที่สวนสนุกแห่งนี้ขึ้นเครื่องเล่นต่างๆ แบบต่อเนื่อง ร่วมสนุกอย่างไม่รู้จบด้วยบัตรผ่านนี้
Featherdale Wildlife Park
พบกับสัตว์พื้นเมืองออสเตรเลีย รวมถึงจิงโจ้ที่เป็นมิตร หมีโคอาล่าน่ากอด และสัตว์เลื้อยคลานที่น่าสนใจในสวนสัตว์ Featherdale Wildlife Park สวนสัตว์แห่งนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งตามธรรมชาติ เป็นที่ที่เหมาะกับการพบปะสัตว์ป่าต่างๆ ของออสเตรเลียไม่ว่าคุณจะชอบเหล่านักล่าชั้นยอดหรือสัตว์ตัวน้อยน่ากอด ก็มีให้คุณชมทั้งนั้นที่สวนสัตว์ Featherdale Wildlife Park ที่แห่งนี้มีสัตว์กว่า 2,000 ตัว เป็นหนึ่งในแหล่งรวบรวมสัตว์และนกพื้นเมืองของเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในซิดนีย์ชมหมีโคอาล่าที่น่ารักอย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปกับเจ้าสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องเหล่านี้ ป้อนอาหารจิงโจ้และวัลลาบีแล้วพบกับตัววอมแบทขนปุย เผชิญหน้ากับจระเข้ งู และกิ้งก่าที่ Reptilian Pavilion ไปต่อกันที่โซนนกและชื่นชมนกแก้วหลากสี เพนกวินน้อย และแม้กระทั่งนกขนาดใหญ่ เช่น นกอีมูและนกแคสโซแวรีพบกับการนำเสนอของผู้ดูแลและโชว์ให้อาหารตลอดทั้งวัน เรียนรู้ข้อเท็จจริงที่น่าทึ่งของสัตว์พื้นเมืองเช่นอีคิดนาหรือแทสเมเนียนเดวิล นอกจากนี้คุณยังมีส่วนร่วมให้อาหารในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย การบรรยายอื่นๆ พูดถึงเพนกวิน นกกระทุง และค้างคาวแม่ไก่
ไฮไลท์
- วันแห่งการพบปะกับสัตว์ป่าออสเตรเลียที่น่าทึ่ง
- ป้อนอาหารจิงโจ้ และวัลลาบีที่เป็นมิตรด้วยมือ
- พบกับหมีโคอาล่าน่ากอดแบบใกล้ชิดเหลือเชื่อ
- การแสดงของสัตว์ป่าและการบรรยายจากผู้ดูแลที่มีทุกวัน
- มีสัตว์กว่า 2,000 ตัวอยู่ในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ
Australia Walkabout
ป่าของออสเตรเลียที่แท้จริงที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าที่เป็นมิตรที่สุดในออสเตรเลีย รวมถึงโบราณสถานอะบอริจิน ใช้เวลาเดินทางแค่ชั่วโมงเดียวจากซิดนีย์ อุทยาน Walkabout เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่แท้จริง
สัตว์ต่างๆ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสะในพื้นที่ 202 ไร่ หรือในแคมป์ หากสัตว์เหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ สัตว์จำนวนมากในประเทศออสเตรเลียนี้ได้รับการช่วยเหลือ และตอนนี้มีสุขภาพที่ดีแล้ว แต่ยังไม่สามารถกลับไปดำรงชีวิตในป่าได้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการดูแลสัตว์เพื่อการขยายจำนวนสัตว์ป่าสำหรับสายพันธุ์ที่ถูกคุกคาม สัตว์บางชนิด เช่น สัตว์เลี้ยงในฟาร์มมีบทบาทสำคัญกับโครงการศึกษาการอนุรักษ์สัตว์ที่อุทยาน Walkabout คุุณจะได้ดื่มด่ำไปกับความมหัศจรรย์แห่งโลกของสัตว์ หรือเข้าร่วมในกิจกรรมที่เจ้าหน้าที่อุทยานจัดให้ รวมถึงได้พบเห็นสัตว์ และทัวร์เดินชมเพื่อเยี่ยมชมสถานที่ของชาวอะบอริจิน เรียนรู้เกี่ยวกับอาหารพื้นเมือง และยาสมุนไพรจากพืช รวมถึงจะได้ลองขว้างบูมเมอแรง หรือคุณสามารถเดินเที่ยวด้วยตัวเองไปตามแผนที่ หรือนั่งเล่นจิบกาแฟที่ศูนย์นักท่องเที่ยวกับนกอีมูและจิงโจ้ก็ได้
ไฮไลท์
ป่าธรรมชาติ สัตว์ป่าที่เป็นมิตร สถานที่ของชาวอะบอริจิน
เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้นำกิจกรรมตลอดทั้งวัน “ตั้งแต่หัดขว้างบูมเมอแรงไปจนถึงพาชมเจ้าตัวบิลบี”
- โคอาล่า วอมแบท ดิงโก ตัวตุ่น และเหล่าผองเพื่อน
- จิงโจ้แสนรู้และเป็นมิตร นกอีมู และสัตว์ป่าอื่นๆ
- ลองชิมอาหาร Bush Tucker และชม Bush Medicine จากนั้นพาไปเยี่ยมชมสถานที่ของชาวอะบอริจิน
Waradah Australian Centre

ทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์อะบอริจินของออสเตรเลียในบรรยากาศร่วมสมัยที่มีชีวิตชีวาท่ามกลางทัศนียภาพของเทือกเขาบลู Waradah Australian Centre มีงานศิลปะ ของชำร่วย เวิร์คชอป และการแสดงสดอันหลากหลายที่จะทำให้คุณสัมผัสมรดกของทวีปตั้งแต่ยุคของชนพื้นเมืองจนถึงสังคมหลากหลายวัฒนธรรมในปัจจุบันเมื่อคุณก้าวเข้าสู่ศูนย์แห่งนี้ คุณจะได้พบกับตัวอย่างบางส่วนของศิลปะอะบอริจินที่มีชีวิตชีวิาและยังคงสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น แกลเลอรีมีภาพวาดที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบที่มีสีสันและมีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนานจากพื้นที่ทะเลทรายทางตอนกลางและตะวันตก ขณะที่เวิร์คชอปและการบรรยายเป็นกลุ่มเล็กๆ จะทำให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และต้นกำเนิดของขบวนการศิลปะอะบอริจินในเดือนกันยายน 2018 การแสดงสดของเราเปลี่ยนแปลงเป็นประสบการณ์ใหม่ที่แสนวิเศษ ที่ครอบคลุมและยกย่องเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของออสเตรเลียการแสดงถ่ายทอดแง่มุมต่างๆ ของวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของชนพื้นเมืองในออสเตรเลีย และมีรายละเอียดของโจรป่า ยุคตื่นทอง และมรดกของกองทัพน้อยออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ในชุดย้อนยุคเต็มรูปแบบการแสดงสดยังมีซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์มัลติมีเดียล่าสุด ที่ฉายภาพไปยังจอ 3 จอ นอกจากนี้ การลงทุนในซอฟต์แวร์แปลภาษาที่มีสิทธิบัตรของ Acoustiguide ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถรับชมการแสดงสดได้ผ่าน 8 ภาษาที่ให้บริการการแสดงใช้เวลา 30 นาที รอบการแสดงมีดังต่อไปนี้10:30 น., 11:30 น., 12:30 น., 13:30 น. และ 14:30 น.
Melbourne (เมล์เบิร์น)
นครเมลเบิร์น
เมลเบิร์น (อังกฤษ: Melbourne, ออกเสียงว่า /ˈmel.bən/ หรือ /ˈmæl.bən/) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ มีประชากรประมาณ 3,806,092 คน (พ.ศ. 2549) เมลเบิร์นเป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย เมลเบิร์นก่อตั้งใน พ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1835)
ย่านนี้ใน วิคตอเรีย มีคนพื้นที่ราว 4,200,000 คน
ให้เด็กๆ ได้สนุกกันอย่างเต็มที่ที่ สวนสนุก Luna Park และ สวนสนุกแกแลกซี่แลนด์ และหากยังเที่ยวเล่นไม่จุใจละก็ ขอแนะนำให้ไปที่ โรงอาบน้ำทะเลเซนต์คิลดา และ ศูนย์ภาพเคลื่อนไหวแห่งออสเตรเลีย
ที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเมลเบิร์น คุณจะตื่นตาตื่นใจเมื่อได้รับชมบรรดาสัตว์น้ำแหวกว่ายอย่างอิสระ คุณไม่ต้องเป็นนักชีววิทยาก็สามารถเข้าใกล้สัตว์น้ำที่งดงามที่สุดของโลกได้
ไม่ว่าคุณจะไปที่ สวนสัตว์เมลเบิร์น หรือ สวนสัตว์ Werribee Open Range เมื่อคุณมาเที่ยวที่นี้ ทั้งสองแห่งล้วนมีกิจกรรมสนุกๆ มากมายสำหรับคุณและครอบครัว ไม่ว่าใครที่มาสวนสัตว์ทั้งสองแห่งนี้ ทุกคนล้วนแต่เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมสัตว์ต่างๆ มากมายซึ่งอยู่ร่วมกันในความดูแลของสวนสัตว์
เคยสงสัยไหมว่าอะไรที่ทำให้เบียร์ใน เมลเบิร์น อร่อย สมัครเข้าร่วมคณะนำเที่ยวที่โรงเบียร์คาร์ลตันและยูไนเต็ด เพื่อดูเบื้องหลังการผลิตเบียร์แล้วคุณจะได้รับคำตอบ
วิธีการที่ดีที่สุดในการสัมผัสเนื้อแท้ของภูมิภาค เมลเบิร์น คือการใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงสำรวจไร่องุ่น ห้องบ่มไวน์ และไวน์หลากหลายชนิดที่ไร่องุ่นในพื้นที่ แหล่งผลิตไวน์ที่ได้รับความนิยมคือ โรงไวน์ Galli Estate, โรงไวน์ Shadowfax และ โรงไวน์มอนบัลค์
ศูนย์รวมความบันเทิงและคาสิโนคราวน์ เป็นตัวเลือกที่แนะนำสำหรับคนที่ต้องการเสี่ยงดวง หรือแค่ชมแสงสีเสียงตระการตาของคาสิโน
ใช้เวลาสองสามชั่วโมงที่หนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์หลายแห่งใน เมลเบิร์น ผู้คนมากมายชอบที่จะเดินเล่นที่ สวนพฤกษชาติ Royal และ สวนพฤกษศาสตร์ St. Kilda อุทยานโรโดเดนดรอนแห่งชาติ และ สวนพฤกษศาสตร์ Williamstown เป็นตัวเลือกอีกสองแห่งสำหรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่
พาครอบครัวออกไปด้านนอกและสำรวจสิ่งใหม่ๆที่สวนในเมืองอันเขียวขจี หากคุณต้องการอากาศบริสุทธิ์ รอยัลพาร์ก และ สวนคาร์ลตัน คือสองทางเลือกที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง หากยังอยากเดินเล่นต่อมุ่งหน้าไปที่ สวนฟิตซ์รอย และ สวนสาธารณะ Werribee
หากอยู่ใน เมลเบิร์น ควรแวะไปที่ ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวซันบิวรี เพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางนี้
น้ำตก Olinda เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามของน้ำตก
ขณะที่คุณอยู่ใน เมลเบิร์น คุณควรแบ่งเวลาสักวันสองวันเพื่อเดินเล่นแนวชายหาดที่สวยงามในแถบนั้น เลือก หาด St. Kilda หรือ หาด Brighton ซึ่งทั้งสองเป็นสถานที่ที่ควรแวะไปเยือนในฺบริเวณนี้ สถานที่ที่ไม่ควรพลาดอีกสองแห่ง ได้แก่ หาดเอลวูด และ หาดเซาท์ เมลเบิร์น
หากต้องการชมพื้นที่ทางธรรมชาติที่ทำให้ เมลเบิร์น เป็นที่รู้จัก ให้มุ่งหน้าไปยังพื้นที่อนุรักษ์ที่ได้รับการคุ้มครองหลายแห่ง สถานที่สองแห่งที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในแถบนี้ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติ Dandenong Ranges และ ป่า Sherbrooke คุณยังควรไปสำรวจ ทางเดินโคโคดา 1000 ขั้น และ อุทยานชายฝั่งพอยท์คุก ด้วย
มาผจญภัยที่ องค์กร Jawbone Marine Sanctuary ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำที่คุณห้ามพลาด องค์กร Jawbone Marine Sanctuary มอบการผจญภัยเกี่ยวกับทะเลที่คุณหาจากที่อื่นไม่ได้
เรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้งที่พิพิธภัณฑ์สองสามแห่งที่น่าสนใจที่นี่ พิพิธภัณฑ์ผู้อพยพ และ พิพิธภัณฑ์การกีฬาแห่งชาติ มีคอลเลกชันมากมายที่คุณจะต้องสนใจอย่างแน่นอน พิพิธภัณฑ์ชาวยิวแห่งออสเตรเลีย และ พิพิธภัณฑ์ฐานทัพอากาศหลวงออสเตรเลียเป็นอีกสองแห่งที่คุ้มค่ากับการเข้าชม
หากไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีคุณควรไปชม เรือพอลลี วูดไซด์ เพื่อเติมเต็มวันหยุดพักร้อนของคุณ หากวันนั้นยังต้องการทำกิจกรรมอย่างอื่นเพิ่ม เราขอแนะนำให้ไปที่ เรือรบหลวงเอชเอ็มเอเอส แคสเซิลเมน
ลองพาคนรักไปชมสิ่งประดิษฐ์ แบบจำลอง และการจัดแสดงทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่ พิพิธภัณฑ์และท้องฟ้าจำลอง Scienceworks and Melbourne Planetarium ศูนย์วิทยาศาสตร์ที่มีคนไปเยี่ยมชมมากที่สุดในบริเวณ เมลเบิร์น
หากคุณรักการเรียนรู้อาณาจักรสัตว์ พิพิธภัณฑ์เมลเบิร์น เป็นตัวเลือกที่คุณควรแวะไปสำรวจ หากยังไม่เต็มอิ่ม ขอแนะนำให้แวะไปที่ พิพิธภัณฑ์ The Hellenic ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจพอๆ กัน
ดื่มด่ำกับโลกแห่งศิลปะใน เมลเบิร์น ที่หอศิลป์ที่มีอยู่หลายแห่ง ขอแนะนำให้ใช้เวลาช่วงบ่ายที่ หอศิลป์แห่งชาติวิคตอเรีย, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Ian Potter และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ Heide
พิพิธภัณฑ์ประจำเมือง ณ กระทรวงการคลังเดิมเมืองเมลเบิร์น เป็นหนึ่งในพิพิพิธภัณฑ์หลักๆ ในภูมิภาคนี้ หากคุณกำลังมองหาสถานที่อื่นๆ เพิ่มเติม สมาคมประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์เขตเวอร์ริบี เป็นอีกสถานที่ที่ยอดเยี่ยมและไม่ควรพลาดเมื่อคุณอยู่ใน เมลเบิร์น
ขณะมาที่ เมลเบิร์น ลองไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตที่เกิดขึ้นที่นี่ เริ่มต้นการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โดยมุ่งหน้าไปที่ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น และ มหาวิทยาลัย RMIT และหากคุณต้องการเรียนรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ให้มากกว่านี้ ขอแนะนำให้ไปที่ รถไฟกลจักรไอน้ำพัฟฟิงบิลลี และ มหาวิทยาลัยแห่งเทคโนโลยี Swinburne
ชมความความทางสถาปัตยกรรมขณะที่คุณเดินเล่นในศาสนสถานอันเก่าแก่หนึ่งหรือสองแห่ง ณ เมลเบิร์น วิหารเซนต์แพทริก และ วิหารเซนต์ปอล เป็นสถานที่ที่แนะนำ การเดินทางเยือนสถานที่สำคัญทางศาสนาจะยังไม่สมบูรณ์หากไม่ได้ใช้เวลาสักหนึ่งวันที่ สักการสถานแห่งความทรงจำ และ แอบบอทส์ฟอร์ดคอนแวนต์
เมลเบิร์น มีแลนด์มาร์กทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและอนุสาวรีย์หลายแห่ง คุณจะต้องไปเยือน จุดชมวิวอาคารยูเรกา สกายเด็ค 88 อันมีชื่อเสียง จากนั้น ไปต่อที่ ท่าเรือ St Kilda หรืออีกที่ที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ ท่าเรือ Central Pier
ถ้าคุณต้องการซื้อของฝาก เมลเบิร์น เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับคุณ ใช้เวลาสักพักที่ ตลาดควีนวิคตอเรีย และ ศูนย์การค้าเมลเบิร์น เซ็นทรัล ใน เมลเบิร์น เพื่อเลือกซื้อของที่ระลึก หากมีเวลาเหลือ อย่าพลาดมาสำรวจร้านค้าเพิ่มเติมได้ที่ แหล่งช้อปปิ้งถนนเบิร์ค และ ศูนย์การค้า Doncaster
ความคิดสร้างสรรค์ของคนในชุมชนทำให้ เมลเบิร์น มีสถาบันศิลปะการแสดงที่ได้รับความนิยมหลายแห่ง มีศูนย์ที่ได้รับความนิยมอยู่สองแห่งคือ โรงละคร Forum และ โรงละคร Regent โรงละครซันเธียร์เตอร์ หรือ โรงละครพรินเซส เป็นศูนย์ศิลปะการแสดงอีกสองแห่งในพื้นที่แห่งนั้นซึ่งคุณจะได้รับชมการแสดงสดที่ยอดเยี่ยม
ลองหาเวลาจากทริปที่ เมลเบิร์น ไปสนุกสุดๆ ที่สนามกอล์ฟสุดทันสมัยเหล่านี้ สนามกอล์ฟที่เป็นที่โปรดปรานของนักกอล์ฟท้องถิ่นประกอบด้วย สนามกอล์ฟ Royal Melbourne และ สนามกอล์ฟ Victoria สนามกอล์ฟ Woodlands และ สนามกอล์ฟ Albert Park คือกอล์ฟคอร์สที่ไม่ควรพลาดมาประลองวงสวิงของคุณ
ก่อนจะกลับบ้าน ต้องแวะไปสถานที่น่าสนใจที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักให้ได้ หอสมุดรัฐวิคตอเรีย และ ศูนย์ศิลปะร่วมสมัยออสเตรเลีย เป็นที่เที่ยวใหม่ๆ ที่จะให้อะไรกับคุณเยอะ อย่าลืมไปชม เขตสงวนซีบรูค และ ศูนย์การขี่ม้าแห่งชาติ สิ ถ้าพอมีเวลา
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
สนามเมลเบิร์นคริกเก็ตกราวน์ (MCG)
ร่วมเป็นสักขีพยานวินาทีประวัติศาสตร์ของกีฬา เมื่อคุณมาเยี่ยมชมสนามเมลเบิร์นคริกเก็ตกราวน์ (MCG) หรือที่แฟนกีฬาขาประจำเรียกอย่างเป็นกันเองว่า “เดอะจี” MCG เป็นสถานที่จัดการแข่งขันนัดสำคัญที่สุดในมรดกการกีฬาที่ยาวนานและหลากหลายของเมลเบิร์น ชมการแข่งขันหรือมหกรรมกีฬาในสนามกีฬาขนาดใหญ่แห่งนี้ และสำรวจพิพิธภัณฑ์การกีฬาแห่งชาติ มาเดินเที่ยวและชมวิวจากในบาร์และร้านกาแฟที่มีอยู่หลายร้านในเดอะจี
เมื่อคุณเดินไปในสวนสาธารณะยาร์รา คุณจะมองเห็นกำแพงสนามกีฬามหึมาและไฟสนามที่สูงใหญ่ของ MCG ปรากฏอยู่เบื้องหน้า หอไฟสูงนี้สามารถมองเห็นได้จากทุกแห่งในเมือง หากคุณมาที่นี่เพื่อชมการแข่งขันกีฬา คนดูและเจ้าหน้าที่นำทางจะช่วยคุณค้นหาที่นั่ง นั่งบนอัฒจันทร์แล้วมองลงมาดูสนามคริกเก็ตพื้นหญ้า สนามกีฬามีความจุประมาณ 95,000 คน โดยมีที่ยืนเสริมอีก 5,000 ที่ คุณอาจมีโอกาสเข้าชมการแข่งขันระดับนานาชาติหรือระหว่างรัฐ และชมทีมคริกเก็ต ทีมฟุตบอลที่ใช้กฏออสเตรเลีย ทีมรักบี้ยูเนียน หรือทีมในรักบี้ลีกแข่งขันกัน MCG เคยจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกของ FIFA และรายการต่างๆ ของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและในเครือจักรภพที่จัดขึ้นในเมลเบิร์น
สำรวจพิพิธภัณฑ์การกีฬาแห่งชาติเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการแข่งขันนัดสำคัญที่เคยเกิดขึ้นในสนามกีฬาที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในเมลเบิร์น ภายในพิพิธภัณฑ์ คุณจะพบกับหอเกียรติยศการกีฬาออสเตรเลีย พิพิธภัณฑ์การแข่งความเร็วออสเตรเลีย และพิพิธภัณฑ์สโมสรคริกเก็ตเมลเบิร์น
ใช้บริการนำเที่ยวของ MCG และไปชมเบื้องหลังสนามกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดของออสเตรเลีย เยี่ยมชมห้อง Long Room และห้องสมุดสมัยศตวรรษที่ 19 ของสโมสรคริกเก็ตเมลเบิร์น และไปเดินเล่นในสนามหญ้า ไปดูห้องต่างๆ สำหรับผู้เล่น โค้ช และสื่อมวลชน สุดท้าย คุณจะไปที่ City Terrace ซึ่งมองเห็นทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมของเส้นขอบฟ้าเมืองเมลเบิร์น
สนามเมลเบิร์นคริกเก็ตกราวน์ตั้งอยู่ในย่านอีสต์เมลเบิร์นภายในระยะที่เดินได้จากใจกลางเมือง คุณสามารถเดินทางมาที่สนามกีฬานี้ได้ทั้งทางรถไฟหรือรถราง งานส่วนใหญ่ต้องซื้อตั๋ว ซึ่งหาซื้อได้ทางออนไลน์หรือห้องขายตั๋ว ทัวร์และการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต้องเสียค่าเข้า ซึ่งสามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อรับส่วนลด
หอสมุดแห่งรัฐวิคตอเรีย
หอสมุดแห่งรัฐวิกตอเรียเป็นอาคารสมัยศตวรรษที่ 19 ที่โอ่อ่า ทำหน้าที่เก็บแหล่งข้อมูลและข้อมูลอ้างอิงที่สำคัญที่สุดของรัฐ สำรวจการจัดแสดงและนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่ประดับผนังหอสมุดวิกตอเรียที่หรูหรา และเรียนรู้เกี่ยวกับมรดกอันมั่งคั่งและสมบัติล้ำค่าที่น่าตื่นตาตื่นใจของรัฐ ชมเสื้อเกราะของพรานป่าเน็ด เคลลีผู้อื้อฉาว และชมเอกสารทางประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุและผลงานศิลปะที่น่าสนใจ
ในขณะเข้าใกล้หอสมุดแห่งรัฐวิกตอเรีย ใช้เวลาชั่วครู่เพื่อชื่นชมการออกแบบนีโอคลาสสิกอันน่าทึ่ง หอสมุดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1854 โดยมีสถาปัตยกรรมอันโอ่อ่าที่แสดงให้เห็นความโดดเด่นในฐานะศูนย์กลางสำหรับการเรียนรู้ การเข้าสังคมและการพักผ่อน หน้ามุขที่โอ่อ่าของหอสมุดประชันกับลานสาธารณะปูพื้นที่กว้างขวาง สนามหญ้าเขียวขจีและรูปปั้นบรอนซ์ เข้าไปในหอสมุดและตรงไปยังห้องอ่านหนังสือ La Trobe ห้องกลางที่งามสง่านี้เป็นจุดเด่นหนึ่งของหอสมุด และมีเพดานโดมที่ให้แสงสว่างธรรมชาติแก่ภายในที่กว้างขวาง
อย่าลืมสำรวจนิทรรศการถาวรของหอสมุด ซึ่งรวมถึงการจัดแสดงศิลปวัตถุต้นยุควิกตอเรียและหมวกเหล็กโลหะอันเป็นเอกลักษณ์ของพรานป่าและอาชญากร เน็ด เคลลี นิทรรศการ Mirror of the World แสดงหน้าประวัติศาสตร์ผ่านยุคต่างๆ
สำรวจหนังสือ ภาพถ่าย หนังสือพิมพ์ เอกสารและแผนที่ในปริมาณมหาศาลของหอสมุด หรือค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลเสียง ภาพและดิจิตอลที่เก็บไว้ในหอสมุด นอกจากนี้ ยังมีแกลเลอรีอีกหลายแห่งที่จัดแสดงผลงานศิลปะและจดหมายเหตุแบบหมุนเวียน สำรวจแกลเลอรี Keith Murdoch, แกลเลอรี Cowen และแกลเลอรี Dome หรือชมการแสดงสื่อที่คัดสรรมาอย่างดีบนผนัง Experimedia
สอบถามข้อมูลโปรแกรมการจัดงาน การพูด การบรรยาย เวิร์คช้อปและบริการนำเที่ยวที่จัดขึ้นเป็นประจำได้ภายในห้องสมุด หากวันไหนมีแสงแดด ไปนอนอ่านหนังสือดีๆ บนสนามหญ้าที่ค่อยๆ ลาดลงอย่างอ่อนโยน ขั้นบันไดของหอสมุดยังคงเป็นจุดนัดพบสำคัญ เพื่อให้ชาวเมืองได้พบปะ เฉลิมฉลองและประท้วง
หอสมุดแห่งรัฐวิกตอเรียตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเมลเบิร์นและเข้าชมได้ฟรี บริการนำเที่ยวและงานส่วนใหญ่ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องจองล่วงหน้า หอสมุดเปิดทุกวัน ยกเว้นวันศุกร์ประเสริฐ วันคริสต์มาส วันบ็อกซิ่ง และวันขึ้นปีใหม่ เดินทางมาที่หอสมุดได้ด้วยบริการขนส่งสาธารณะ หรือจอดรถในลานจอดรถในบริเวณใกล้เคียง
สะพานเทียบเรือเซนต์คิลดา
สะพานเทียบเรือเซนต์คิลดาเป็นสัญลักษณ์ที่ยืนนานของเมลเบิร์น และเป็นจุดหมายยอดนิยมเพื่อมาชมทัศนียภาพตัวเมือง เดินไปตามความยาวของสะพานเทียบเรือ ชื่นชมทัศนียภาพสุดลูกหูลูกตาข้ามผืนน้ำ และรับของว่างจากร้านค้าเก่าแก่ หย่อนเบ็ดตกปลาลงไป แล้วมาดูว่าคุณจะจับสัตว์ธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในอ่าวแห่งนี้ได้หรือไม่
สะพานเทียบเรือเดิมก่อตั้งครั้งแรกโดยผู้ตั้งรกรากชาวยุโรปใน ค.ศ. 1853 แต่ไม่นานก็ต้องยอมแพ้แก่ผืนน้ำที่เต็มไปด้วยพายุของอ่าวพอร์ตฟิลิป เดินเล่น ขี่จักรยาน หรือเล่นโรลเลอร์เบลดบนสะพานคนเดินกรำแดดกรำฝนที่ยื่นไปตามแนวอันแข็งแกร่งของสะพานเทียบเรือเก่า ชมเรือนานาชนิดที่เดินทางในอ่าวนับตั้งแต่เรือคายัคไปจนถึงเรือยอชท์และเรือข้ามฟาก สะพานเทียบเรือเซนต์คิลดาคอยให้การต้อนรับนักเดินเรือที่เดินทางมาจากอ่าวพอร์ตฟิลิปมายาวนานตั้งแต่ยุคแรกๆ ของการตั้งรกรากของเมลเบิร์น
ที่สุดปลายสะพานเทียบเรือ คุณจะพบกับร้านเก่าแก่ St Kilda Pier Kiosk ซึ่งก่อตั้งใน ค.ศ. 1904 ร้านนี้ตั้งอยู่ภายในศาลายุคเปลี่ยนศตวรรษที่สวยงาม โดยเป็นจุดที่สวยงามจับตาในการรับประทานอาหารพร้อมชมวิวผืนน้ำที่งดงาม นั่งลงรับประทานอาหารกลางวันหรือรับของว่างง่ายๆ จากคาเฟ่เก่าแก่แห่งนี้
นั่งแกว่งเท้าจากสะพานเทียบเรือและมองกลับไปทางหน้าหาดเพื่อชมเส้นขอบฟ้าของเมลเบิร์น นำเบ็ดตกปลาและหย่อนเบ็ดลงในอ่าวพอร์ตฟิลิปในขณะที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า หลังพลบค่ำ คุณอาจมองเห็นนกเพนกวินตัวน้อยๆ กลับจากผืนน้ำคืนสู่รังใกล้กับกำแพงกันคลื่นเซนต์คิลดา ชื่นชมสิ่งมีชีวิตที่น่ารักเหล่านี้จากระยะไกลและหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพโดยใช้แฟลช มัคคุเทศก์นกเพนกวินพร้อมตอบคำถามของคุณในช่วงฤดูร้อน
สะพานเทียบเรือเซนต์คิลดายื่นออกมาจากเขตสงวนหน้าหาดเซนต์คิลดาและคาตานีการ์เด้นส์ที่หาดเซนต์คิลดาบริเวณริมน้ำด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น เข้าถึงสะพานเทียบเรือได้จากเซนต์คิลดาเอสพลานาด (St Kilda Esplanade) ที่สวยงามหรือเดินหรือขี่จักรยานมาบนเส้นทางเบย์เทรล (Bay Trail) ซึ่งมีทางเข้าเขตสงวนหน้าหาดเซนต์คิลดาด้วยรถรางได้อย่างง่ายดาย เยี่ยมชมสะพานเทียบเรือแห่งนี้ได้ตลอดเวลาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ศูนย์การค้า QV Centre
สำรวจซอกซอยเชื่อมต่อกันที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าแบบไดนามิกและร้านกาแฟใน QV Centre ศูนย์รวมร้านค้าปลีกที่น่าตื่นเต้นกระจายไปทั่วทั้งช่วงตึกในเมือง ด้วยร้านค้าปลีกนานาชนิด ทำให้ QV เป็นประสบการณ์ช้อปปิ้งสำคัญของเมลเบิร์น สำรวจหน้าร้านที่มีสีสันสดใสและสำรวจร้านค้าที่ขายสินค้าเฉพาะทางจำนวนมาก ค้นหาอะไรก็ตามที่คุณอยากได้ในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารแบบฟาสต์ฟู้ดหลากหลายรูปแบบและบาร์ในบรรยากาศผ่อนคลายทำให้ QV เป็นแหล่งในการเพลิดเพลินกับของว่างหรือสังสรรค์กับเพื่อนฝูง
QV กสมกลืนเข้ากับถนนในเมืองของเมลเบิร์น เข้าไปในศูนย์รวมร้านค้าปลีกผ่านเครือข่ายถนนคนเดินและเพลิดเพลินกับบรรยากาศเปิดโล่งภายในนั้น ที่ชั้นล่าง คุณจะพบกับร้านค้าริมทางเดินที่นำไปสู่บริเวณรับประทานอาหารกลาง สำรวจร้านค้าบูทีคและแบรนด์คลาสสิกที่แข่งกันอวดข้อเสนอแฟชั่นล่าสุดของเมืองนี้ เดินเที่ยวดูสินค้าหรือหาซื้อของชิ้นใหม่ประดับตู้เสื้อผ้าของคุณ หากคุณกำลังมองหาของใช้ในบ้านหรือของชำ คุณจะพบกับสิ่งที่คุณมองหาได้แน่นอนที่ห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ภายใน QV Centre
ในบริเวณรับประทานอาหาร เลือกของว่างหรืออาหารจากแผงขายหรือร้านอาหารที่ขายอาหารแบบฟาสต์ฟู้ดและอาหารสดๆ จากทั่วโลก หากคุณต้องการบรรยากาศการรับประทานอาหารที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ขึ้นไปที่ชั้นบนของร้านอาหารที่เรียงราย QV Square ในส่วนกลางแจ้ง จัตุรัสสไตล์ยุโรปแห่งนี้เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารทั้งมื้อเช้า กลางวันและเย็น หน้าอาคารของโรงพยาบาลหญิงสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียอันเก่าแก่ ซึ่งมีอายุย้อนได้ถึง ค.ศ. 1846 ตั้งอยู่โดดเด่นมองเห็นได้ชัด พื้นที่แห่งนี้ใช้จัดงานและกิจกรรมลอยตัวของเมืองเป็นประจำ เช่น ลานไอซ์สเก็ตและการสาธิตการทำอาหาร เดินชมห้องแสดงศิลปะและร้านหนังสือของ QV หรือชวนเพื่อนๆ ไปประลองฝีมือบิลเลียดหรือโบว์ลิ่งสิบพิน
QV Centre ตั้งอยู่ในบริเวณหนึ่งช่วงตึกใจกลางเมืองเมลเบิร์น ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายทางรถราง รถไฟและรถประจำทาง จอดรถได้ที่ลานจอดรถใต้ดิน 24 ชั่วโมงของศูนย์รวมร้านค้าปลีก QV Centre เปิดทุกวันจนถึงช่วงดึก โดยแต่ละร้านมีเวลาทำการแตกต่างกัน
Perth (เพิรธ์)
เพิร์ท (อังกฤษ: Perth) เป็นเมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ในประเทศออสเตรเลีย มีประชากรอาศัยอยู่ 1,507,900 (ธันวาคม 2006) ทำให้เพิร์ทเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และเป็น 3 ใน 4 ของรัฐ ความหนาแน่นของประชากรอยู่ที่อันดับที่ 4 ในออสเตรเลีย ด้วยอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 2.1 (2006) และคาดว่าจะเจริญได้ถึงร้อยละ 2.5 ในปี 2007
ย่านนี้ใน เวสเทิร์นออสเตรเลีย มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 1,900,000 คน
แบ่งเวลาอย่างเต็มที่กับลูกหลานที่ โรงกษาปณ์เมืองเพิร์ท และ สวนสนุกแอดเวนเจอร์ เวิลด์ ที่เต็มไปด้วยความสนุก นอกจากนี้ ยังมีความสนุกอีกมากมายรอคุณอยู่ที่ เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า Paruna และ เบย์วอเตอร์เวฟส์ ยังเป็นสถานที่ที่สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ คุณจะเพลิดเพลินกับโลกใต้น้ำจนลืมเวลา ตื่นตาเมื่อมองปลากระเบนและฉลามลอยผ่านพลางเรียนรู้เกล็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเล
ด้วยสวนสัตว์หลายต่อหลายแห่งในพื้นที่ คุณจะไม่มีวันเบื่อเลยถ้าคุณเป็นคนรักสัตว์ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า สวนสัตว์ Caversham เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่สุดในภูมิภาคนี้ มาเที่ยวทั้งทีต้องไม่พลาดไปที่ สวนสัตว์ Cohunu Koala Park และ สวนสัตว์เมืองเพิร์ท เพื่อเรียนรู้และเสริมประสบการณ์กับเหล่าสัตว์นานาพันธุ์อย่างเต็มที่
ผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมเบียร์ใน เพิร์ท ต้องไปที่โรงเบียร์ Swan Brewery หรือโรงเบียร์ไอรอนบาร์ค เข้าร่วมคณะทัวร์แล้วเรียนรู้เกี่ยวกับสามขั้นตอนของการผลิตเบียร์ได้แก่ การบ่ม การบรรจุขวด จนถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการดื่ม!
ฟังเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มในสนามที่อบอวลไปด้วยกลิ่นยางไหม้ที่เสียดสีกับพื้นถนนที่ สนามขับรถ SuperCars Perth สนามแข่งรถยอดนิยมในพื้นที่ หากกำลังมองหากิจกรรมนอกบ้านที่ยอดเยี่ยม พาครอบครัวไปชมการแข่งรถ และส่งเสียงเชียร์ให้เต็มที่ ขณะที่นักแข่งประลองความเร็วในสนาม
คุณจะพบว่ามีเพียงไม่กี่อย่างในชีวิตที่จะน่าจดจำไปกว่าการได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติของไวน์คุณภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักชิมหรือเป็นผู้ที่ชอบดื่มไวน์เป็นครั้งคราวจะต้องตกหลุมรัก ไร่องุ่นลิตเทิล ริเวอร์ ไวน์เนอรี่ และ โรงไวน์ Houghton ส่วน โรงไวน์ Sandalford และ โรงไวน์ Talijancich ก็เป็นอีกสองแห่งที่ได้ที่รับความนิยมในท้องถิ่น
เพลิดเพลินกับการผสมผสานระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ระหว่างที่คุณเดินเล่นไปรอบๆ อุทยาน Rio Tinto Naturescape Kings อย่าลืมพกกล้องไปถ่ายภาพพันธุ์พืชที่สวยที่สุด
หากคุณชอบพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ไปที่หนึ่งในสวนในเมืองอันสวยงามของที่นี่ หากคุณต้องการพื้นที่สีเขียว สวนคิงส์พาร์ค แอนด์ โบทานิก การ์เดน และ อนุสรณ์สถานสงคราม Kings Park คือสองทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างดีเยี่ยม หรือลองไปที่ ไฮด์ พาร์ค และ สวนในบริเวณศาลฎีกา
เรียนรู้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของคุณที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอย่างเช่น ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหุบเขาสวาน หรือ ศูนย์นักท่องเที่ยวร็อคกิ้งแฮม
เอาเท้าย่ำน้ำพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ ณ Lake Joondalup Park เดินเล่นริมน้ำนั่งปิกนิกและชมนกหลายสายพันธุ์ได้ที่ Lake Joondalup Park ซึ่งจะช่วยปลดปล่อยความเครียด
สำหรับการท่องเที่ยวกลางแจ้งที่ดีจัดอาหารกลางวันและเดินทางไปที่ชายหาดหลักสักแห่งที่อยู่ใกล้กับ เพิร์ท เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีสุดหลายแห่งในแถบนี้ เช่น หาด Cottesloe และ หาดซิตี้ ถ้าคุณยังไมเ่จอสถานที่ที่ใช่บางทีคุณอาจจะชอบ หาดทริก หรือ เมทแทมส์พูล
หากต้องการดูพื้นที่ทางธรรมชาติที่ทำให้ เพิร์ท มีชื่อเสียง มาสำรวจเขตสงวนที่ได้รับการคุ้มครองบางแห่งที่มีชื่อเสียง เขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่ผู้คนแวะมาเยือนมากที่สุดในพื้นที่นี้ คือ เพนกวินไอส์แลนด์ และ เดอะ เบซิน นอกจากนี้ ให้มาเดินเล่นรอบๆ อุทยานแห่งชาติ Yanchep และ สวน Beeliar Regional Park ด้วย
พาครอบครัวแวะไปชมพิพิธภัณฑ์ที่หลากหลายในบริเวณใกล้เคียง พิพิธภัณฑ์และศูนย์ศึกษาด้านการป้องกันอัคคีภัย และ พิพิธภัณฑ์สมาคมคริกเก็ตโลกแห่งออสเตรเลีย จัดแสดงคอลเลกชันมากมายที่ทำให้คุณอยากมาเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์อีกสองแห่งที่น่าชมไม่แพ้กัน คือ พิพิธภัณฑ์ Bert Tyler Machinery และ พิพิธภัณฑ์และศูนย์ศึกษากฎหมายฟรานซิส เบิร์ธ
หากคุณชอบมรดกการเดินเรือและการสร้างเรือของประเทศนี้ ขอแนะนำให้แวะไปชม พิพิธภัณฑ์การเดินเรือเวสเทิร์นออสเตรเลีย หากสนใจการใช้ชีวิตกลางทะเล พิพิธภัณฑ์การเดินเรือเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด
ลูกๆ ของคุณอยากเรียนรู้การค้นพบและประวัติความเป็นมาของวิทยาศาสตร์หรือไม่ ขอแนะนำให้แวะไปที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์สักแห่ง เริ่มจาก ศูนย์การเรียนรู้ Scitech หรือ ศูนย์ศึกษาค้นคว้าเรื่องแรงดึงดูด (Gravity Discovery Centre)
พิพิธภัณฑ์เวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางที่สนใจเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติ และหากคุณอยากเรียนรู้วิวัฒนาการทางธรรมชาติในดินแดนนี้ ที่แห่งนี้คือที่ที่คุณไม่ควรพลาด
การแสดงออกด้านศิลปะคือส่วนหนึ่งที่น่าสนใจของการเป็นมนุษย์ ลองไปเที่ยวชม หอศิลป์เวสเทิร์นออสเตรเลีย เพื่อค้นพบโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์
เมื่อคุณไปเที่ยวที่ เพิร์ท ขอแนะนำให้ไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ Berndt และ โคโลเนียลโกวล์แอนด์เทย์เลอร์สคอตเทจ ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้ความจริงที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับอดีตที่น่าตื่นเต้นของที่นี่
ขณะมาที่ เพิร์ท อย่าลืมไปดูแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เพื่อสำรวจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลีย และ ศาลาว่าการเมืองเพิร์ท คือสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่โด่งดัง และหากคุณยังมีเวลาเหลือ คุณสามารถไปเที่ยวที่ บาร์รัคส์อาร์ค และ บ้าน Samson
พื้นที่รอบๆ เพิร์ท มีชื่อเสียงในเรื่องของสถานที่สำคัญทางศาสนามากมายหลายแห่ง ดังนั้น อย่าลืมแวะชมให้ครบทุกที่ เริ่มต้นที่ สุเหร่าเพิร์ธ และ มหาวิหารเซนต์แมรี ทริปเยือนสถานที่สำคัญทางศาสนาจะถือว่าไม่สมบูรณ์หากไม่ได้ใช้เวลาสักหนึ่งวันที่ วิหารเซนต์จอร์จ และ โบสถ์ Wesley Uniting
หากท่องเที่ยวใน เพิร์ท อย่าลืมแวะสำรวจแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงต่างๆ คุณจะต้องไปเยือน Fraser Avenue Lookout อันมีชื่อเสียง แล้วไปต่อที่ ท่าเทียบเรือเมนส์ สตรีท หรือ บรูคฟีลด์ เพลซ
ค้นหาว่าทำไม เพิร์ท จึงขึ้นชื่อในด้านการเป็นแหล่งช้อปปิ้ง อัพเดทเทรนด์แฟชั่น ซื้ออาหารอร่อยๆ หรือดูผู้คนจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้าต่างๆ ศูนย์การค้ามาร์เก็ต ซิตี้ และ ตลาดฟรีแมนเทิล ทั้งคู่เป็นสถานที่ช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง ถ้าคุณพักอยู่ที่ เพิร์ท ห้ามพลาดช้อปปิ้งที่แหล่งช้อปปิ้งถนนเมอร์เรย์ รวมถึง แหล่งช้อปปิ้งถนนเฮย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
หากต้องการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมของ เพิร์ท ให้พาคนรักหรือครอบครัวไปที่หอการแสดงที่หรูหราสักแห่ง คุณจะได้พบศิลปินทั้งในและนอกพื้นที่ที่เก่งที่สุด โรงละคร Old Mill กับ โรงละคร Playhouse ซึ่งเป็นอีกที่หนึ่งที่ผู้คนชื่นชอบ ศูนย์แสดงคอนเสริ์ตเมืองเพิร์ท กับ โรงละคร His Majesty เป็นศูนย์การแสดงอีกสองแห่งในพื้นที่แห่งนี้ที่คุณจะได้สนุกไปกับความบันเทิงแห่งค่ำคืนอันแสนวิเศษ
อีกหนึ่งวิธีดีๆ ที่จะเข้าถึงธรรมชาติของย่านนี้ จองรอบที่สนามกอล์ฟที่เป็นที่โปรดปรานที่สุดของย่านนี้ สนามกอล์ฟที่สวยงามที่สุดในย่านนี้ประกอบด้วย สนามกอล์ฟ Marangaroo, สนามกอล์ฟรอยัลฟรีแมนเทิล และ สนามกอล์ฟสาธารณะ Hamersley
ก่อนจะกลับบ้าน ต้องไม่ลืมไปสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครไป ท่าเรือฮิลลารีส์โบ๊ท และ หอสมุดเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นที่ที่ควรไปเยือนให้ได้สักครั้ง ถ้ามีเวลาเหลือ ขอแนะนำให้ไปเที่ยว สถาบันศิลปะร่วมสมัยเมืองเพิร์ท และ โรงสีเก่า ให้ได้
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
หาดคอทเทสโล (Cottesloe Beach)
หาดคอทเทสโลเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนในวันฟ้าใสแดดดี เพราะมีน้ำทะเลใสเหมาะสำหรับว่ายน้ำและโต้คลื่น หาดนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวครบครัน และเป็นที่ตั้งของสโมสร Surf Life Saving Club หยิบผ้าขนหนูเตรียมไปให้พร้อม ทาครีมกันแดด และลงเล่นคลื่นกันได้เลย
คอทเทสโลเป็นจุดหมายที่ผู้คนนิยมมาใช้เวลาวันหยุดพักผ่อนมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ที่นี่มีคลื่นซัดต่อเนื่องและอุณหภูมิของน้ำก็อยู่ประมาณ 21 องศาเซลเซียสเกือบตลอดทั้งปี
สำหรับนักโต้คลื่น ลองว่ายไปหาจุดที่คลื่นดีๆ ทางตอนใต้ของอนุสาวรีย์ Arch Monument ที่มีนาฬิกาแดดหินขนาดยักษ์ หรือจะว่ายไกลออกไปอีกสักหน่อยก็ได้ แต่นักว่ายน้ำอาจจะชอบน้ำทะเลที่คลื่นไม่แรงนักในบริเวณใกล้กับร้านบิสโทร Indiana
นักท่องเที่ยวที่มาพร้อมเด็กเล็กควรมุ่งหน้าไปทางทิศใต้เพื่อไปยัง The Groyne น้ำทะเลบริเวณนั้นจะเรียบสงบเหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำ คุณอาจมองเห็นเกาะร็อตเนสต์ที่อยู่ห่างออกไป หลังจากเล่นน้ำแล้วอาจไปที่ Vlamingh Memorial อนุสรณ์ที่ตั้งชื่อขึ้นตามนักสำรวจชาวดัตช์ซึ่งเป็นผู้ตั้งชื่อเกาะร็อตเนสต์
อย่าลืมนำเบ็ดตกปลามาลองนั่งตกปลาที่ท่าเรือ ถ้าโชคดี คุณอาจได้ปลาติดมือกลับไปสักตัวสองตัว เช่าอุปกรณ์สน็อกเกิลเพื่อชื่นชมชีวิตใต้ท้องทะเลรอบๆ แนวปะการังคอทเทสโล ถ้าสังเกตให้ดี คุณอาจเห็นมังกรทะเลใบไม้ที่ซ่อนตัวกลมกลืนอยู่กับสาหร่ายทะเลที่พลิ้วไหวไปมา
พักผ่อนใต้ร่มเงาของต้นสนนอร์ฟอล์ค หรือไปปิกนิกบนสนามหญ้าพร้อมชมวิวมหาสมุทรอินเดีย หากอยากทานอาหารทะเลสดๆ หรือหาของว่างรองท้อง ไปที่ถนนมารีนพาเหรดที่อยู่เลียบชายหาด และปิดท้ายด้วยการไปจิบไวน์หรือค็อกเทลเย็นๆ สักแก้วในผับหลังพระอาทิตย์ตกดิน
ถ้าคุณเดินทางไปเพิร์ทในช่วงกลางเดือนมีนาคม ห้ามพลาดเทศกาล Sculpture by the Sea ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีบนหาดนี้
หาดคอทเทสโลอยู่ห่างจากตัวเมืองเพิร์ทประมาณ 11 กิโลเมตร คุณสามารถนั่งรถสาธารณะหรือขับรถมาที่นี่ก็ได้ โดยสามารถจอดรถได้ฟรีริมถนนมารีนพาเหรด ในฤดูร้อน จะมีเจ้าหน้าที่ชายฝั่งเดินตรวจตราจนถึงช่วงเย็น คุณควรว่ายน้ำอยู่ภายในธงที่ระบุว่าเป็นโซนที่ปลอดภัยสำหรับการว่ายน้ำเท่านั้น
โรงกษาปณ์เมืองเพิร์ท
โรงกษาปณ์เมืองเพิร์ทเป็นสถานที่สกัดทองเพียงแห่งเดียวของออสเตรเลีย และทำหน้าที่ผลิตเหรียญมาเป็นเวลานาน ทั้งยังได้รับความเชื่อถือจากประเทศเพื่อนบ้านให้ผลิตเหรียญกษาปณ์และเหรียญตราต่างๆ ด้วย คุณสามารถเดินชมห้องจัดแสดงต่างๆ ภายในโรงกษาปณ์เพื่อชมคอลเล็คชั่นเหรียญล้ำค่า ก้อนทองคำ ทองคำแท่ง และเหรียญกษาปณ์ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โรงกษาปณ์แห่งนี้เดิมเป็นสาขาของโรงกษาปณ์หลวงกรุงลอนดอน ตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1899 ซึ่งเป็นยุคตื่นทองในทะเลทรายอันห่างไกลของเวสเทิร์นออสเตรีเลีย โรงกษาปณ์เมืองเพิร์ทสร้างชื่อจากการการเทหลอมทองคำแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบัน โรงกษาปณ์ยังคงทำการอยู่ แต่อาคารเก่าทางประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการ
ร่วมทัวร์เดินชมโรงกษาปณ์ที่จะพาคุณไปชมเหรียญทองคำเหรียญแรกที่ผลิตขึ้นที่นี่ สำรวจโรงงานหลอมทองและห้องนิรภัยที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ลองชั่งน้ำหนักบนตาชั่งแบบพิเศษ ที่จะบอกว่าน้ำหนักตัวของคุณมีค่าเท่าไหร่เมื่อเทียบเป็นทอง ไปเยี่ยมชมที่พักเก่าของนักสำรวจเพื่อฟังเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่แสนทรหด และการค้นพบทอง พร้อมชมขั้นตอนการเททอง
เดินต่อไปยังนิทรรศการ Gold Bar เพื่อชมทองคำแท่งจากทั่วโลก และก้อนทองคำจากธรรมชาติที่ห้อง Natural Nugget คุณจะได้เห็นก้อนทองคำขนาดใหญ่อายุกว่า 40 ล้านปี ซึ่งขุดพบที่เมืองคาลกูรลีในปีค.ศ. 1995 นับเป็นการค้นพบที่โชคดีที่สุดในโลก!
ห้ามกลับเด็ดขาดถ้าคุณยังไม่ได้เห็นเหรียญที่มีความยาวเส้นผ่านศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร เหรียญที่มีค่าที่สุดในโลกนี้ทำจากทองคำแท้ 99.99 เปอร์เซ็นต์ และมีมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย!
ร้านขายของชำร่วยมีคอลเล็คชั่นเหรียญสำหรับสะสมและเครื่องประดับให้คุณได้เลือกซื้อ และยังรับสลักชื่อของคุณลงบนเหรียญด้วย
โรงกษาปณ์เมืองเพิร์ทตั้งอยู่ที่สี่แยกบริเวณที่ถนนฮิลล์และถนนเฮย์ตัดกัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่สำคัญ แนะนำให้มาถึงภายในช่วงบ่ายเพื่อที่จะได้ร่วมทัวร์ชมโรงกษาปณ์ คุณสามารถนั่งรถบัส Red Cat ที่ให้บริการฟรีจากในตัวเมืองเพิร์ทเพื่อมายังโรงกษาปณ์ได้
Credit: Expedia & Wikipedia
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.