นิวยอร์ก (New York)

นครนิวยอร์ก หรือที่นิยมเรียกกันว่า นิวยอร์กซิตี (New York City; NYC) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก เป็นมหานครเอกของโลก จัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน วัฒนธรรม บันเทิง ที่สำคัญที่สุดของโลก เป็นเมืองที่มี ตึกระฟ้า ตึกสูงมาก ตลอดระยะเวลา 150 ปี และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ

นิวยอร์กตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย 5 เขตปกครองที่เรียกว่า โบโรฮ์ (Borough) คือ เดอะบรองซ์บรูคลิน แมนแฮตตัน ควีนส์ และสแตตัน ไอส์แลนด์ ประชากรรวมทั้งหมดประมาณ 8,274,527 คน ภายในพื้นที่ 790 ตร.กม. (305 ตร.ไมล์) นอกจากจะเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดแล้ว สัดส่วนประชากรต่อพื้นที่ยังถือว่าหนาแน่นที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ลักษณะเฉพาะของนิวยอร์กที่แตกต่างไปจากเมืองอื่นของสหรัฐอเมริกา มีให้เห็นหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ระบบขนส่งที่มีโครงข่ายขนาดใหญ่ ความเหมือนและความแตกต่างกันของประชากร ใน ค.ศ. 2005 มีภาษาประมาณ 170 ภาษาที่ใช้กันในเมืองแห่งนี้ และ 36% ของประชากรไม่ได้เกิดและโตในสหรัฐอเมริกา ระบบรถไฟใต้ดินนครนิวยอร์กที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง บวกกับการจราจรและผู้คนที่พลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา จึงมีคำเปรียบเปรยถึงนิวยอร์กว่าเป็น “เมืองที่ไม่เคยหลับใหล” ขณะเดียวกันเมืองแห่งนี้ยังมีชื่อเล่นอื่นๆ อีกด้วยอย่าง “กอร์ทเทม” (Gotham) และ “บิ๊กแอปเปิล” (Big Apple)

ชาวดัชต์ถือเป็นผู้คนกลุ่มแรกที่เข้ามาเริ่มปักหลักทำการค้าใน ค.ศ. 1624 ซึ่งนั่นได้ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ. 1785 จนกระทั่ง ค.ศ. 1790 และเคยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ ค.ศ. 1790 เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) ได้ให้การตอนรับผู้มาเยือนหลายล้านคน ที่เดินทางมายังสหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนกระทั่งต้นศตวรรษที่ 20 วอลล์สตรีท (Wall Street) ที่ตั้งอยู่ในแมนแฮตตันตอนใต้ ก็ถือเป็นศูนย์กลางที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินของโลกมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: New York Stock Exchange) ในปัจจุบัน นิวยอร์กมีสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของโลกหลายแห่ง รวมทั้งตึกที่เคยสูงที่สุดในโลกอย่างตึกเอ็มไพร์สเตท (Empire State Building)

นิวยอร์กยังเป็นบ้านเกิดของวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานวรรณกรรมและทัศนศิลป์ที่เรียกว่า ฮาเล็ม เรอเนสซองค์ (Harlem Renaissance) งานภาพเขียนที่เรียกว่าศิลปะกึ่งนามธรรม (Abstract Expressionism) หรือที่รู้จักกันว่า “นิวยอร์กสคูล” วัฒนธรรมทางดนตรีอย่าง ฮิปฮอป พังค์ ซัลซ่า และดิสโก้ รวมทั้งยังเป็นบ้านเกิดของละครบรอดเวย์อีกด้วย

การเดินทางใน New York

ระบบการคมนาคมในนิวยอร์กจัดได้ว่าสามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุมและซับซ้อน ซึ่งรวมถึงสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในอเมริกาเหนือ อุโมงค์รถยนต์ที่มีความทันสมัยแห่งแรกของโลก แท็กซี่เยลโล่ แคป (Yellow Cabs) มากกว่า 12,000 คัน กระเช้าไฟฟ้า (Aerial Tramway) ที่ให้บริการระหว่าง รูสเวลท์ ไอส์แลนด์ (Roosevelt Island) และแมนแฮตตัน และเรือเฟอร์รี่ที่เชื่อมระหว่างแมนแฮตตันกับพื้นที่อื่นๆ นอกเมือง โดยมีสแตนตัน ไอส์แลนด์ เฟอร์รี่ ซึ่งถือเป็นเรือเฟอร์รี่ที่มีผู้ใช้บริการมากถึง 19 ล้านคนต่อปี ให้บริการในระยะทาง 5.2 ไมล์ (8.4 กิโลเมตร) ระหว่างสแตนตัน ไอส์แลนด์ และแมนแฮตตันตอนใต้ รถโดยสารประจำทาง และโครงข่ายระบบรางของนิวยอร์ก ถือได้ว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ โครงข่ายระบบรางจะเชื่อมกับพื้นที่ชานเมืองของรัฐที่อยู่ใกล้เคียง 3 รัฐ (Tri-state Region) ประกอบไปด้วยพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐนิวยอร์ก (รวมโบโรห์ทั้ง 5 ของเมืองนิวยอร์กด้วย) พื้นที่ตอนเหนือของรัฐนิวเจอร์ซีย์ และพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐคอนเนตทิคัต โดยมีสถานีมากกว่า 250 แห่ง ใน 20 เส้นทาง สถานีหลักคือแกรนด์เซ็นทรัลเทอร์มินัล และสถานีเพนซิลเวเนีย

รถไฟใต้ดินนิวยอร์ก จัดว่าเป็นระบบขนส่งความเร็วสูง (Rapid Transit) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนับจากสถานีที่มากถึง 468 สถานี และมีผู้ใช้บริการต่อปีมากสุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก (ผู้โดยสารประมาณ 1.5 พันล้านคน ใน ค.ศ. 2006) รถไฟใต้ดินมหานครนิวยอร์กมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ การให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ผิดกับรถไฟใต้ดินในเมืองอื่นๆ ที่จะปิดให้บริการในเวลากลางคืน ไม่ว่าจะเป็น ลอนดอน ปารีส วอชิงตัน ดี.ซี. มาดริด โตเกียว หรือ กรุงเทพมหานคร

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

Empire State Building

ตึกเอ็มไพร์สเตทเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและสะท้อนถึงความเป็นนิวยอร์ก อาคารแห่งนี้มีชื่อเสียงเลื่องลือเนื่องจากเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น “An Affair to Remember,” “King Kong,” และ “Sleepless in Seattle” อันที่จริงแล้ว ถือได้ว่า ตึกเอ็มไพร์สเตทเป็นอาคารระฟ้าที่มีความสำคัญและโรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งของนิวยอร์กทีเดียว

ตึกเอ็มไพร์สเตทเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1931 และได้ช่วงชิงตำแหน่งอาคารที่สูงที่สุดของโลกจากตึกไครสเลอร์ที่เคยครองสถิติมาเป็นเวลา 40 ปี นิวยอร์กได้รับสมญานามว่าเป็น “เอ็มไพร์สเตท” เพราะเป็นชื่อที่นำมาจากอาคารแห่งนี้ สำหรับนิวยอร์กแล้ว ตึกเอ็มไพร์สเตทก็เปรียบได้กับหอไอเฟลที่มีความสำคัญต่อปารีส หรือหอคอยสเปซนีเดิลที่มีความสำคัญต่อซีแอตเทิล

ตึกเอ็มไพร์สเตทมีความสูงลิบลิ่วถึง 1,453 ฟุต โดยรวมถึงส่วนที่เป็นหอกระจายเสียง หอสังเกตการณ์สองแห่งของอาคารเปิดรับวิวแสงสีที่กะพริบไหวของแมนฮัตตัน หอสังเกตการณ์แห่งหนึ่งตั้งอยู่บนชั้นที่ 86 ในขณะที่อีกแห่งหนึ่งอยู่บนชั้นที่สูงสุดคือ ชั้นที่ 102 ซึ่งอยู่ข้างใต้ของหอกระจายเสียงที่มีเสาสัญญาณสูง 1,454 ฟุต ระหว่างทางไปหอสังเกตการณ์ อย่าลืมแวะเยี่ยมชมการจัดแสดงนิทรรศการ Dare to Dream 80th Floor Exhibit นิทรรศการถาวรนี้จัดแสดงรูปถ่าย ผังรายละเอียดการก่อสร้าง และข้อมูลทางด้านวิศวกรรมของอาคาร

เดินไปตามทางเดินเปิดโล่งบนชั้นที่ 86 เพื่อชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของมิดทาวน์ แมนฮัตตันตอนล่าง และเซ็นทรัลพาร์ค ในวันที่อากาศแจ่มใส จะสามารถมองเห็นได้ไกลถึงนิวเจอร์ซีย์และคอนเนตทิกัต ปรับกล้องส่องทางไกลแบบเก่าให้ซูมเข้าเพื่อชมสถานที่น่าสนใจที่อยู่ใกล้เคียงได้แบบโคลสอัพ ซึ่งรวมถึงสวนสาธารณะไบรอันพาร์ค และไทม์สแควร์

หอสังเกตการณ์บนชั้นที่ 102 เป็นจุดที่สูงที่สุดในนิวยอร์กที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ พื้นที่สำหรับชมวิวในลักษณะแบบปิดล้อมนี้เหมาะอย่างยิ่ง หากคุณมาเยือนในช่วงฤดูหนาว

ตึกเอ็มไพร์สเตทตั้งอยู่ในมิดทาวน์ แมนฮัตตัน ในใจกลางเมือง สามารถเดินทางถึงได้โดยง่ายด้วยรถประจำทาง รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือรถไฟ หอสังเกตการณ์ทั้งสองเปิดให้ประชาชมเข้าชมได้ 365 วันต่อปี แถวซื้อตั๋วและแถวคอยขึ้นลิฟต์อาจจะยาว ดังนั้น วิธีการที่ฉลาดคือซื้อตั๋วจากเว็บไซต์ทางการของตึกเอ็มไพร์สเตท การขอแต่งงานของคนรักมักพบเห็นได้บ่อย และในบางครั้ง นักเป่าแซ็กโซโฟนยังมาขับกล่อมบทเพลงแว่วหวานให้แก่บรรดาคู่รักที่มาเยือนบนชั้นที่ 86 แห่งนี้

Statue of Liberty National Monument

มีสิ่งก่อสร้างน้อยนักที่จะปลุกเร้าความรู้สึกได้มากมายเหมือนดังเช่น อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพอันเป็นสัญลักษณ์ที่น่าทึ่งแห่งเสรีภาพ ความหวัง และประชาธิปไตย อนุสาวรีย์นี้ตระหง่านอย่างภาคภูมิอยู่บนเกาะลิเบอร์ตี ในอ่าวนิวยอร์ก

เทพีเสรีภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกนี้ มีความสูง 305 ฟุต (92 เมตร) ครั้งหนึ่ง เธอทำหน้าที่ทักทายบรรดาผู้อพยพที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางมาทางเรือในช่วงระหว่างศตวรรษที่ 19 ซึ่งต่างก็มุ่งหวังชีวิตที่ดีกว่า เทพีเสรีภาพเป็นของขวัญจากฝรั่งเศสที่มอบให้แก่สหรัฐอเมริกาในปี 1886 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงการประกาศอิสรภาพของอเมริกา อนุสาวรีย์แห่งนี้มีโอกาสได้ปรากฏโฉมเป็นจำนวนครั้งนับไม่ถ้วนทางโทรทัศน์และภาพยนตร์ฮอลลีวูด

สำหรับผู้ที่เดินทางมาเยือนในปัจจุบัน หากเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่มายังเกาะ จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ชื่นชมทิวทัศน์ของอ่าวแมนฮัตตัน ขอบฟ้าของเมือง และเทพีเสรีภาพ ทั้งนี้ มีเรือเฟอร์รี่ออกเดินทางจากสวนสาธารณะแบตเตอรี่พาร์ค ในแมนฮัตตันตอนล่างอยู่บ่อยๆ

กรมบริการอุทยานแห่งชาติมีการจัดทัวร์นำเที่ยวที่ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อย ในการนำเที่ยว ยังมีการให้ข้อมูลภาพรวมโดยทั่วไปของเกาะและประวัติศาสตร์อันยาวนานของเทพีเสรีภาพ นอกจากนี้ ยังมีการนำเที่ยวด้วยระบบเสียงไว้คอยบริการเพื่อให้ความรู้สึกเป็นอิสระมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกทัวร์แบบใดก็ตาม แต่อย่าลืมไปต่อแถวเพื่อรอไต่ระดับความสูงขึ้นไปสู่มงกุฎของเทพีเสรีภาพ หลังจากที่มีการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในวันที่ 11 กันยายน 2001 สถานที่แห่งนี้จึงปิดการเข้าชมและมีการปิดอีกครั้งเพื่อดำเนินการปรับปรุงใหม่ในปี 2011 ในปัจจุบันได้เปิดให้เข้าชมได้แล้ว จุดชมวิวกรุด้วยหน้าต่างกระจก 25 บาน และเปิดรับทิวทัศน์ของเมืองนิวยอร์กในมุม 360 องศา จึงคุ้มค่าสำหรับการรอคอยในแถวที่ยาวคดเคี้ยวและเคลื่อนตัวช้า เพื่อขึ้นไปสัมผัสกับภาพแห่งความประทับใจที่ชั้นบนสุด

พิพิธภัณฑ์ Ellis Island Immigration ตั้งอยู่ห่างออกไปทางตอนเหนือของเกาะลิเบอร์ตีในระยะไม่เกินหนึ่งไมล์ เป็นจุดแวะเที่ยวชมที่ควรค่าสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์การอพยพของนิวยอร์ก เกาะเอลลิสเคยเป็นศูนย์กลางสำหรับการจัดการเกี่ยวกับผู้อพยพนับล้านที่แสวงหาที่ลี้ภัยและต้องการจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ภายในอาคารหลักที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเกาะ มีการจัดแสดงแบบนำชมในตัวพร้อมนำเสนอรูปถ่าย สิ่งประดิษฐ์ สิ่งพิมพ์ วิดีโอ และการจัดแสดงเชิงอินเทอร์แอคทีฟที่สะท้อนถึงความหวังและการดิ้นรนของบรรดาผู้อพยพมายังนิวยอร์ก

เทพีเสรีภาพมีที่ตั้งอยู่ในอ่าวนิวยอร์ก ระหว่างแมนฮัตตันตอนล่างและสเตตันไอส์แลนด์ คุณสามารถเดินทางเพื่อไปนั่งเฟอร์รีที่สวนสาธารณะแบตเตอรี่พาร์คโดยใช้บริการรถประจำทางและรถไฟฟ้าใต้ดินได้หลายสาย

Times Square

สำหรับผู้คนในท้องถิ่น พวกเขาอาจบ่นถึงความจอแจของการท่องเที่ยวที่ไทม์สแควร์ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ดินแดนน่าอัศจรรย์แห่งแสงไฟนีออนแห่งนี้เป็นหัวใจที่สูบฉีดจังหวะแห่งสีสันให้แก่นิวยอร์ก ศูนย์กลางแห่งความสั่นสะเทือนที่คับคั่งนี้อึกทึกด้วยเสียงและดูสับสนวุ่นวาย ที่นี่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ย่านแห่งนี้ตั้งชื่อตาม The New York Times ที่ย้ายสำนักงานใหญ่มาที่นี่ในปี 1904 (ปัจจุบัน หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้ย้ายไปตั้งอยู่ที่ถนนเอทอะเวนิวซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก) ไทม์สแควร์ตั้งอยู่ระหว่างถนนเวสต์ 42 สตรีทและถนนเวสต์ 47 สตรีท บนถนนเซเว่นอะเวนิว หลังจากที่สามารถสลัดทิ้งชื่อเสียงที่ไม่ดีเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ได้แล้ว ผู้มาเยือนจึงหลั่งไหลเข้ามายังไทม์สแควร์เพื่อสัมผัสกับตัวตนแห่งนิวยอร์ก

การเปิดไฟสว่างไสวตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน ข่าวตัวอักษรวิ่ง ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ที่กะพริบไหว และป้ายโฆษณาที่เจิดจ้าบาดตา คุณลักษณะทั้งหมดนี้ล้วนแต่ช่วยกันแต่งเติมบรรยากาศให้แก่ไทม์สแควร์ บ่อยครั้ง สีสันอันหลากหลายของความเป็นท้องถิ่นก็สามารถมอบความบันเทิงให้แก่ผู้มาเยือนได้ คุณอาจได้พบกับนักตีกลองชาวแอฟริกัน นักเล่นกลโยนรับสิ่งของและนักเต้นได้ตลอดเวลา เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่คาวบอยเปลือยได้กลายมาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว เขาคือนักดนตรีบนท้องถนนที่มีชื่อเสียงในการเล่นกีตาร์ขณะสวมใส่แต่เพียงชุดชั้นใน การแสดงดนตรีแบบสดๆ และการพูดในที่สาธารณะที่สร้างความประหลาดใจ สามารถพบเห็นได้ทั่วไป และไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด หากมิคกี้เมาส์จะแอบโผล่มาทางด้านหลังเพื่อหอมแก้มคุณ

คุณสัมผัสกับบรรยากาศที่นิ่งมากยิ่งขึ้นได้ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซซึ่งจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งของบรรดาคนดัง

ย่านโรงละครบรอดเวย์อยู่ห่างออกไปจากใจกลางของไทม์สแควร์เล็กน้อย ตามปกติแล้ว ผู้ชมการแสดงนับร้อยจะไปเข้าแถวที่บูธกลางแจ้ง TIX เพื่อรับบัตรเข้าชมในราคาครึ่งราคาในบ่ายของวันที่มีการแสดง ณ หนึ่งในสถานที่ของโรงละครที่มีอยู่ถึง 40 แห่ง

สำหรับคอของหวาน สามารถหาของอร่อยรับประทานได้ที่ร้านช็อคโกแล็ตขนาดใหญ่ของ M&M และ Hershey สำหรับผู้ที่ต้องการจะชมบรรยากาศของความวุ่นวายครึกครื้น สามารถหาเก้าอี้สักตัวมานั่งปล่อยอารมณ์ที่ใจกลางไทม์สแควร์ซึ่งใกล้กับการจราจรที่ผ่านไปมา หรือเลือกชมภาพยนตร์สักเรื่องในโรงภาพยนตร์มัลติเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่มีอยู่หลายแห่งในย่านนี้

ไทม์สแควร์เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ตั้งแต่สินค้าระดับสูงไปจนถึงสินค้าน่ารักๆ ต่างๆ ที่คุณสามารถจับจองเป็นของที่ระลึก เช่น เสื้อยืด “I Heart NYC” และถ้วยแก้วตราทีม New York Yankees ยังมีร้านอาหารหลากหลายประเภทให้อิ่มอร่อย ตั้งแต่อาหารฟาสต์ฟู้ดจนถึงร้านอาหารนิวยอร์กอันเลื่องชื่อที่เสิร์ฟซุปมาสโซ่บอลถ้วยใหญ่ และแซนด์วิชชิ้นโต

ไทม์สแควร์ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองนิวยอร์กบนฝั่งตะวันตก มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีใหญ่อยู่ที่นั่น และยังสามารถค้นหาเส้นทางรถประจำทางที่ผ่านพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย สถานีปลายทางแกรนด์เซ็นทรัลซึ่งเป็นแหล่งรวมของทางรถไฟ ก็ยังมีที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วย

The National September 11 Memorial

อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 9/11 แห่งนี้ อุทิศแด่เหยื่อของเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 11 กันยายน และเป็นสถานที่ที่เงียบสงบและน่าสลดหดหู่ในท่ามกลางย่านแมนฮัตตันตอนล่างที่วุ่นวาย

หลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001·สถานที่ที่ได้ชื่อว่า กราวด์ ซีโร่ แห่งนี้ได้กลายเป็นประดุจสมรภูมิรบที่บีบคั้นอารมณ์ บรรดาผู้รอดชีวิต ครอบครัวของผู้เสียชีวิต และรัฐบาล ต่างพยายามอย่างเต็มเพื่อเชิดชูเกียรติของผู้สูญเสียชีวิตในพื้นที่ของเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ แม้ว่าในปัจจุบัน กราวด์ ซีโร่จะเป็นสถานที่แห่งการพินิจใคร่ครวญ แต่กราวด์ ซีโร่ก็ยังถูกตั้งเป้าหมายให้เป็นจุดพักผ่อนสำหรับให้ผู้คนที่ทำงานในเมือง นักท่องเที่ยว และผู้มาเยือนที่เป็นคนท้องถิ่นมาเยือนท่ามกลางพื้นที่ที่มีภูมิทัศน์สวยงาม

สระน้ำสองสระได้ถูกสร้างขึ้น ณ ตำแหน่งที่ครั้งหนึ่ง อาคารทวิน ทาวเวอร์สเคยตั้งอยู่ แต่ละสระมีน้ำตกที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ระลึกถึงการสูญเสียชีวิตและแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของพื้นที่อันเป็นผลจากการก่อเหตุวินาศกรรมของผู้ก่อการร้าย มีการสลักชื่อของเหยื่อผู้เสียชีวิตจำนวน 2,977 ราย ไว้ที่ด้านข้างของแต่ละสระน้ำ อนุสรณ์สถานแห่งนี้และเมมโมเรียล พลาซ่า ที่โอบล้อม ในขนาดพื้นที่หกเอเคอร์พร้อมด้วยต้นไม้ 400 ต้น ได้เปิดตัวขึ้นในวันครบรอบ 10 ปีแห่งการโจมตีดังกล่าว ต้นไม้ผู้รอดชีวิตถูกค้นพบในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน นั่นคือ ต้นลูกแพร์ที่พบว่าถูกเผาผลาญอย่างสาหัสอยู่ข้างใต้เศษอิฐหินของอาคารทวิน ทาวเวอร์ส ต้นลูกแพร์สามารถรอดพ้นจากชะตากรรมและกลับยืนต้นสูงตระหง่านอีกครั้งในปัจจุบัน จึงเป็นประดุจสัญลักษณ์ของความหวังอันโดดเด่น

พิพิธภัณฑ์ 9/11 ตั้งอยู่ภายในเมมโมเรียล พลาซ่า เป็นพิพิธภัณฑ์ใต้ดินที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2011 ลักษณะการออกแบบภายนอกของพิพิธภัณฑ์มีความคล้ายคลึงกับบางส่วนของอาคารทวิน ทาวเวอร์สซึ่งนอนอย่างสงบนิ่งอยู่ในพื้นที่ข้างๆ กัน พิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงสิ่งของที่เก็บรวบรวมได้ทันทีภายหลังจากการก่อเหตุวินาศกรรม

เหตุการณ์การโจมตีอาคารเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ได้ผ่านพ้นไปเป็นเวลายาวนานมากกว่าหนึ่งทศวรรษ แต่ในปัจจุบัน พื้นที่แห่งนี้ส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นไซต์งานก่อสร้าง วัน เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ หรือฟรีดอม ทาวเวอร์ เป็นหนึ่งในเจ็ดอาคารที่วางแผนจะก่อสร้างขึ้นที่นี่โดยให้มีความสูง 1,776 ฟุต เพื่อที่จะเป็นอาคารที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่สามของโลก เมื่อสร้างเสร็จในปี 2013

อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 9/11 ตั้งอยู่ในแมนฮัตตันตอนล่างและสามารถเดินทางถึงได้โดยรถประจำทางและรถไฟฟ้าใต้ดิน

Wall Street

Flag hanging on a facade

Manhattan Bridge

ไม่ว่าจะเริ่มจากฝั่งบรุกลินหรือแมนแฮตตัน การข้ามสะพานแมนแฮตตันนั้นให้ทิวทัศน์ที่น่าทึ่งเสมอ ในช่วงเวลากลางวัน ขอบฟ้าของมหานครนิวยอร์กนั้นเรียงรายไปด้วยตึกระฟ้า แม้แต่ในยามค่ำคืน แสงไฟจากทั้งสองฝั่งคอยย้ำเตือนว่าเหตุใดนิวยอร์กจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองที่ไม่เคยหลับใหล” ข้ามสะพานแห่งนี้เพื่อชมทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง และอย่าลืมถ่ายรูปตามภาพที่พบเห็นได้บนโปสการ์ด

สะพานแมนแฮตตันก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1910 และเป็นหนึ่งในสามสะพานอันโด่งดังที่ข้ามแม่น้ำอีสต์ริเวอร์ระหว่างแมนแฮตตันและบรุกลิน โดยเป็นสะพานแห่งแรกที่ใช้ริเริ่มใช้เทคโนโลยีหลายรูปแบบที่เป็นมาตรฐานการก่อสร้างสะพานขนาดยาวในปัจจุบัน ชื่นชมความสำเร็จทางวิศวกรรมที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของขอบฟ้ามหานครนิวยอร์ก

สะพานสามารถเดินทางผ่านได้ด้วยการเดิน จักรยาน รถยนต์ หรือรถไฟ การข้ามสะพานด้วยเท้าทำให้คุณมีโอกาสในการเลือกจุดถ่ายรูป ผู้คนหลายคนใช้สะพานแห่งนี้ในการวิ่งออกกำลังกายด้วย ตื่นแต่เช้าตรู่และขึ้นรถไฟสาย F ไปยังถนนยอร์กสตรีตในบรุกลิน หรือสาย 6 ไปยังถนนคาแนลสตรีต ชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือฝังบรุกลิน

หากคุณเร่งรีบ ก็มีวิธีในการข้ามสะพานที่ถูกกว่าการขับรถหรือขึ้นแทกซี่ ซึ่งก็คือการขึ้นรถไฟข้ามสะพาน อย่าลืมหาที่นั่งติดกับหน้าต่างทางทิศตะวันตกเพื่อชมอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพและดาวน์ทาวน์ หากนั่งมาจากฝั่งแมนแฮตตัน ให้นั่งที่ฝั่งขวาเพื่อชื่นชมทิวทัศน์นี้ หากคุณมาจากฝั่งบรุกลิน ให้นั่งที่ฝั่งซ้าย

อย่างไรก็ตาม บางสิ่งบางอย่างก็สามารถเห็นได้ด้วยการเดินหรือรถยนต์เท่านั้น ซึ่งก็คือแนวเสาขนาดใหญ่ที่แสดงด้านหน้าของทางเข้าเกาะสู่สะพานแมนแฮตตัน ชื่นชมภาพสลักโดย ชาลส์ รัมซีย์ ตลอดแนวประตูโค้งและตระหนักว่าเหตุใดส่วนนี้ของสะพานจึงเป็นสถานที่สำคัญของมหานครนิวยอร์ก

St. Patrick’s Cathedral

มหาวิหารเซนต์แพทริคนิวยอร์กคือมหาวิหารที่งามวิจิตรที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 เป็นมหาวิหารที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมประเพณีและขึ้นชื่อด้านงานศิลป์และหน้าต่างกระจกสี สถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคระดับมาสเตอร์พีซนี้มองเห็นวิวพลาซาที่ฟิฟอเวนิว มีรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมด้านหน้าโบสถ์ที่สวยงามสะกดสายตา อย่าลืมเก็บภาพแห่งความทรงจำของสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์แห่งนี้รวมถึงภายในที่ตกแต่งอย่างงดงามโอ่อ่า

เมื่อมาถึงด้านหน้าของวิหาร มองขึ้นไปยังยอดแหลมคู่หน้าวิหารที่งดงามเหนือจินตนาการด้วยความสูงถึง 330 ฟุต (100 เมตร) ชมรูปสลักอันงามประณีตที่มีความสำคัญทางศาสนาที่ตกแต่งอย่างที่ประตูโบสถ์ ด้านล่างหน้าต่างกุหลาบขนาดใหญ่

เข้าไปด้านในโบสถ์เพื่อชื่นชมความงามของทางเดินยาวรูปไม้กางเขนกลางโบสถ์ที่ยาวกว่า 330 ฟุต (100 เมตร) และมีส่วนกว้างของไม้กางเขนที่ยาวถึง 174 ฟุต (53 เมตร) การตกแต่งภายในมีการออกแบบแบบโบสถ์อังกฤษ ประดับด้วยกระจกสีจากศิลปินชาวฝรั่งเศสและอังกฤษ แวะชมที่ฝังศพของนักบุญของสหรัฐฯ คนแรก เซนต์ อลิซาเบธ แอน เซตัน ซึ่งเกิดช่วงปลายศตวรรษ 1700 และเป็นผู้ก่อตั้งโรงแรมแคธอลิคสำหรับเด็กผู้หญิง

รูปปั้นพระแม่มารีทรงอุ้มพระศพพระเยซูของที่ี่ ปีเอตา (Pietà) มีขนาดใหญ่กว่ารูปปั้นที่สลักขึ้นด้วยฝีมือของไมเคิลแองเจโล ชม Stations of the Cross และชมรูปปั้นครึ่งตัวของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น พอล ที่ 2 (Pope John Paul II)

มหาวิหารสามารถจุคนได้ถึง 3,000 คน มหาวิหารแห่งนี้ใช้เวลาสร้างหลายสิบปีก่อนจะเสร็จลงในช่วงปลายศตวรรษ 1800 และเคยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในแถบนั้น จนกระทั่งมีตึกสูงระฟ้าหลายแห่งล้อมรอบ

นอกจากนี้ยังมีศิลปะวัตถุที่มีความสำคัญทางศาสนามากมายในร้านขายของที่ระลึกของโบสถ์ สามารถเยี่ยมชมมหาวิหารได้ฟรี และบริจาคเพียงเล็กน้อยหากต้องการจุดเทียนเพื่อสวดมนต์ขอพร หมายเหตุ มีการประกอบพิธีมิสซาที่โบสถ์แห่งนี้หลายครั้งต่อวันระหว่างสัปดาห์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของวิหาร

มหาวิหารเซนต์แพทริคตั้งอยู่ห่างจากเซ็นทรัลพาร์คทางใต้ของมิดทาวน์แมนฮัตตันไม่กี่ช่วงตึกเท่านั้น ขึ้นรถไฟใต้ดินไปยังมิดทาวน์ และเดินต่อไปอีกสองถึงสามช่วงตึกเพื่อไปยังตัววิหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้เคียงร็อคเฟลเลอร์ เซ็นเตอร์ (Rockefeller Center) และรูปปั้นทองสำริดแอทลาส (Atlas) ที่มองลงไปเห็นลานสเก็ตน้ำแข็งหรือสวนฤดูร้อนหน้าอาคาร

สถานที่เรียนที่น่าสนใจ

Baruch College, New York

(USA) Baruch College – Continuing & Professional Studies City University of New York

นักเรียนที่ไปเรียนที่ผ่านมา

KK @ Baruch College from CUNY- City University of New York Baruch College